วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2560

[FIC MAGI] ESCAPE เราจะหลบหนีจากโชคชะตา (เรน โคเอนXอาลีบาบา) CHAPTER23


 
"ยุนนนนน อยู่ไหนน่ะ!"
เด็กสาวผมแดงในชุดสีเขียวของข้าราชบริพารเดินไปทั่วตำหนักไม้เล็กๆ เรียกหาเด็กน้อยตัวจ้อยจอมซนที่วิ่งหายไปได้ซักพักหนึ่งแล้ว


'ถ้าปล่อยให้ไปกวนเวลาทำงานของคุณอาลีบาบาล่ะก็คงได้มีเดือดร้อนกันหมดแน่ ที่เรือนกลางก็เข้มงวดมากซะด้วยสิ'

"ทำไมถึงได้ชอบหายไปเรื่อยเลยนะ"
โมลเซียน่าถอนหายใจ ก่อนจะหันไปเห็นองค์ชายฮาคุริวที่ลานฝึก ชายหนุ่มร่างเพรียวผมสีดำขลับกลางลานกว้างนั้นกำลังหันมาโบกมือยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยไว้ใจใครนักนอกจากองค์หญิงโคเกียคุ แต่ว่าหากปฏิเสธความใจดีขององค์ชายฮาคุริวตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาด้วยการระแวดระวังตลอดเวลาเธอเองก็คงจะรู้สึกผิดเหมือนกัน

เด็กสาวผมแดงโค้งหัวเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มท่าทางเป็นมิตรที่อยู่ในระหว่างช่วงพักการฝึก
"ท่านฮาคุริว เห็นเด็กตัวเล็กๆผ่านมาแถวนี้บ้างรึเปล่าคะ?"

"เด็กหรอครับ? ถ้าหมายถึงเด็กคนที่เซย์ชุนพากลับมาด้วยล่ะก็ เห็นว่าเข้าไปเล่นในห้องหนังสือซักพักใหญ่แล้วล่ะครับ"

"เหมือนว่าตอนนี้จะไม่อยู่แล้วน่ะค่ะ สงสัยคงจะไปวิ่งเล่นที่อื่นแน่เลย"
โมลเซียน่าทำหน้ากลุ้มใจ เด็กคนนั้นคงออกไปวิ่งเล่นนอกตำหนักแน่ๆ ตอนมาถึงก็ถามหาท่านอาลีบาบาตลอดเวลาอีก คงจะติดท่านอาลีบาบาเอามากๆ

"ข้าเองก็ฝึกเสร็จพอดี พวกเราไปตามหาด้วยกันมั้ยล่ะครับ"
ฮาคุริวยิ้มบางๆ ก่อนจะวางง้าวที่ใช้ฝึกทิ้งเอาไว้ทั้งๆอย่างนั้น จนโมลเซียน่าอดแปลกใจในใบหน้าของคู่ซ้อมอีกฝ่ายที่ดูเหวอๆไปไม่ได้


'นี่ซ้อมเสร็จแล้วจริงๆนะหรอ?'


"ไปกันเถอะ! เดี๋ยวถ้าเด็กคนนั้นเข้าไปวิ่งเล่นในเขตต้องห้ามจะเป็นเรื่องใหญ่นะครับ" ว่าแล้วองค์ชายฮาคุริวคว้ามือของสาวใช้เฟอนาริสหมับ

โมลเซียน่าก้มลงมองมือที่ถูกคว้าไว้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของมือคู่ใหญ่ที่ตีเนียนส่งยิ้มเป็นประกายวิ้งๆท่าเดียว

"..."




    ฮาคุเอย์มองภาพน้องชายสุดรักสุดหวงเดินจูงมือสาวใช้คนใหม่ออกไปอีกทั้งยังยิ้มร่า ทั้งๆที่การฝึกซ้อมยังไม่เสร็จแต่เจ้าตัวกลับโกหกหน้าตายใส่แม่สาวเฟอนาริสไปซะอย่างนั้น แต่ใบหน้าเล่นสนุกเมื่อครู่นี้เป็นใบหน้าที่ไม่ค่อยได้เห็นซักเท่าไหร่นักของฮาคุริว ดูเหมือนว่าช่วงที่เธอไม่อยู่ ตำหนักของเธอคงจะไม่ได้เงียบเหงาลงแม้แต่น้อย ฮาคุริวเองก็ดูจะร่าเริงขึ้นกว่าเดิมซะอีก

"ดีจังเลยนะ เห็นเขาร่าเริงได้แบบนี้"
เสียงนุ่มไพเราะของหญิงสาวเอ่ยขึ้นเงียบๆจากระเบียงของชั้นสองที่ใช้นั่งรับลมเย็นๆยามบ่าย พร้อมกับค่อยๆวางเข็มและผลงานผ้าที่ปักเสร็จแล้วลงบนโต๊ะ

"หมายถึงท่านฮาคุริวน่ะหรอครับ?" ชายหนุ่มผู้ติดตามตัวเล็กชะโงกหน้าออกไปมองก่อนจะค่อยๆวางถาดน้ำชาลงข้างๆของผู้เป็นนายหญิงของตำหนัก
"คิดๆดูแล้ว องค์หญิงโคเกียคุมีผู้ติดตามเป็นเฟอนาริสตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" ผู้ติดตามหนุ่มพึมพำอย่างอดสงสัยไม่ได้ แม้ว่าเรื่องนี้องค์ชายโคเอนจะเป็นผู้ออกหน้าฝากฝังเองก็ตาม


"ท่านโคเอนเองก็มีเหตุผลที่ยังบอกพวกเราตอนนี้ไม่ได้น่ะ ดูท่าคงเกี่ยวกับมือขวาคนนั้น"

"นั่นสินะขอรับ จะว่าไป เธอเป็นใครมาจากไหนก็ไม่มีใครรู้ อีกอย่างแถวเจิดจรัสนี่จะไปมีผู้หญิงผมทองขนาดนั้นได้ยังไงกัน"

ฮาคุเอย์มองก้านใบชาที่ลอยตั้งตรงอยู่ในถ้วยโดยไม่สนใจผู้ติดตามเรือนผมสีฟ้าอ่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ
'ความจริงแล้วเขาไม่ชอบให้ใครมาเปลี่ยนแปลงอะไรสิ่งที่เป็นอยู่รอบตัวเขานักหรอก นึกไม่ออกจริงๆว่าอะไรที่ทำให้เขายึดติดกับเด็กที่ชื่ออาลีถึงขนาดนั้น'


"ท่านฮาคุเอย์ขอรับ..หรือว่าเธอจะเป็นผู้หญิงต่างชาติ แบบนี้คนจะไม่ครหาเอาได้หรือขอรับ" หนุ่มน้อยหน้าใสนิ่วหน้าอย่างเป็นกังวล ก่อนจะโดนมือเรียวสวยของคนข้างๆเขกหน้าผากเบาๆ

"องค์ชายโคเอนคงรู้ตัวน่า ว่ากำลังทำอะไรอยู่"
ฮาคุเอย์หยิบม้วนกระดาษที่ส่งมาจากตำหนักใหญ่เมื่อครู่นี้ ก่อนจะคลี่อ่านเนื้อหาด้านใน

'เอ..หรือว่าไม่รู้'


.



.



.



  เหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ กว่าจะรู้ตัวก็เริ่มรุกลามปริแตกกลายเป็นดั่งเนื้อร้ายที่บ่อนทำลายร่างกายไปเสียแล้ว…

ณ เมืองทางเหนือเมืองหนึ่งของเจิดจรัส เมืองแห่งย่านโคมแดงอันคราคร่ำไปด้วยกลิ่นไอของตัญหาและหมอกยาสูบล่อลวงนักย่ำราตรีดั่งดอกไม้กลางคืนที่ส่งกระจายกลิ่นหอม สินค้าลึกลับที่ถูกนำเข้ามาขายอย่างผิดกฎหมาย ข่าวลือพิลึกพิลือว่าด้วยเรื่องของกลุ่มผู้คนที่คลุ้มคลั่งหรือไม่ก็เสียสติ บ้างละเมอเพ้อฝัน พฤติกรรมอันฉ้อฉลของเหล่าผู้ตรวจการ ไม่นานข่าวอื้อฉาวพวกนี้ก็ดังแว่วเข้ามาถึงเมืองหลวง

...แต่ทว่า...


"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน"
โคเอนเอ่ยอย่างเรียบๆ ขณะที่โคเมย์กำลังวุ่นวายกับศึกที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

"ข้าก็เห็นว่าอย่างนั้น ยังไงซะเจ้าเมืองราคุโยก็เป็นญาติห่างๆของตระกูลเรนอยู่แล้ว จะตรวจสอบก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร"
คนที่ทำงานหัวฟูปัดรายงานเล็กๆน้อยที่เพิ่งเอาขึ้นมากองบนโต๊ะออกไปแล้วหยิบม้วนกระดาษอื่นขึ้นมาดูแทน
"ที่บัลแบดเองเหมือนจะมีรายงานความคืบหน้าเข้ามาบ้างแล้วนะครับ ตอนนี้องค์ราชาล้มป่วยหนัก อีกไม่นานอับหมัดก็คงได้ครองราชย์ตามที่องค์จักรพรรดิได้หวังไว้อย่างแน่นอน"

"หรอ"

.
.
.


'แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ปล่อยให้นายตายไม่ได้…'

'ตอนที่ข้าถามเด็กคนนั้น เขาก็บอกว่าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเจ้าเป็นพิเศษด้วยนี่นา ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาเจ้าเอาแต่บังคับบงการชีวิตนางหรอกหรอ'




'ทำไม...ถึงกอดหรอ'


นั่นสิ..แล้วทำไมข้าถึงทำเรื่องพวกนั้นลงไปกับคนที่หลับไม่รู้เรื่องได้ เพียงแค่ไม่กี่เดือนในหัวข้าก็มีแต่เรื่องไร้สาระเต็มไปหมด ทั้งๆที่รู้ว่าควรจะจบเรื่องนี้ซะตั้งแต่ตอนกลับมาจากอูกิ แต่อีกใจก็อยากที่จะย้อนกลับไป


อาลีคือเชื้อพระวงศ์แห่งบัลแบด ตัวข้าคือผู้สานต่อปนิธานอันละโมบ
นัยน์ตาคู่สีทองสุกวาวคู่นั้นจำต้องแปดเปื้อนไปด้วยความโกธรแค้นเป็นแน่ ยามที่ข้าล้วงมือเข้าไปพรากทุกสิ่งที่อยู่ในอก


เพียงแต่ตอนนี้…
ขอเพียงแค่อีกนิดเดียวเท่านั้น ให้ข้าได้ตักตวงรอยยิ้มนั้น แล้วข้าจะย้อนกลับไปในทุกอย่างที่ข้าเคยเป็น




   ดวงตาสีทับทิมหม่นที่ฉ่ำแฉะจากการอ่านตัวหนังสือขาวดำมาทั้งวันเงยหน้าขึ้นจากหน้ากระดาษรายงาน มองไปยังพี่ชายที่เพิ่งย้อนกลับเข้ามาในห้องทำงานได้ไม่นานนั่งทำหน้าเหม่อลอยได้ซักพักหลังฟังรายงานจบ
"มีอะไรหรือครับท่านพี่?"

คนที่นั่งเหม่อถอนหายใจ พลางม้วนกระดาษรายงานเก็บไปวางที่เดิม
"เปล่า แค่กำลังคิดว่าให้คนแบบนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของเจิดจรัสมันจะดีแล้วอย่างนั้นหรอ ก็เท่านั้นเอง"


โคเมย์เงียบไปครู่หนึ่งหลังฟังคำของโคเอนจบ ใบหน้านิ่งงันพยายามคิดหาความเป็นไปได้ของการรอดชีวิตของคืนวันที่เกิดไฟไหม้ที่บัลแบดครั้งนั้น ยังไงๆซะ ก็มีเพียงแค่อย่างเดียว อาลี คือ อาลีบาบาอย่างแน่นอน แต่ อาลีดันเป็นผู้ชายเนี่ยสิ หรือว่าจะกลับกัน? ความจริงแล้วอาลีบาบาเป็นเด็กผู้ชาย? ไม่ๆเป็นไปไม่ได้หรอก


'แต่จะว่าไป เราเองก็ยังไม่เคยตรวจสอบเรื่องของอาลีจริงๆจังๆซักครั้ง'


"หลังจากที่บัลแบดเป็นของเรา พอถึงตอนนั้นท่านก็ตั้งใจจะเขี่ยราชาอับหมัดทิ้งแล้วให้อาลีดูแลบัลแบดแทนอยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ จะเป็นอาลีหรืออาลีบาบาผลลัพธ์ที่ออกมาก็เหมือนเดิมอยู่ดี ไม่สิ ต้องบอกว่าโชคดีมากๆที่ทางสหพันธ์7คาบสมุทรไม่ได้ตัวอาลีไป"

"เพราะงั้น..ท่านพี่รีบจัดการเรื่องของอาลีให้เสร็จเร็วๆเถอะครับ ถึงแม้เด็กคนนั้นจะดูลืมๆไปแล้วว่าตัวเองเป็นอะไรอยู่ก็เถอะ"


"เรื่องนั้น เอาไว้หลังจากได้แคว้นเหมันต์มาไว้ในมือก่อนก็ยังไม่สาย.. อีกอย่างข้าเองก็มีเรื่องต้องเช็คให้แน่ใจเหมือนกัน"


ใช่แล้ว… ขอแค่ตอนนี้เท่านั้น
ที่ข้ากับเจ้าจะทำเป็นไม่รู้เรื่องราวใดๆ


ดวงตาคมปราบจ้องมองตัวหนังสือในกระดาษตรงหน้าที่เขียนรายงานเกี่ยวกับเรื่องอาการป่วยหนักขององค์ราชาบัลแบดและการแทรกแซงของซินเดรียที่ต้องการจะให้บัลแบดเปิดเส้นทางเดินเรือให้…

'คิดดูแล้วก็แปลก…'

ทำไมราชาผู้พิชิต7คาบสมุทรถึงต้องลงแรงตั้งคณะสืบสวนเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นขึ้นมา ไหนจะการเคลื่อนไหวที่ดูผิดปรกติพวกนี้ ต้องการแค่เส้นทางเดินเรือแน่อย่างนั้นหรอ? ซินเดรียไม่มีทางฮุบบัลแบดเอาไว้เองได้เพราะติดเรื่องสนธิสัญญา แต่ถ้าไม่ใช่เขตแดน ซินแบดต้องการอะไรถึงต้องออกหน้าเองขนาดนั้น?


ร่างสูงนั่งมองแผ่นม้วนกระดาษ พลางใช้นิ้วเคาะโต๊ะเล่นไปเรื่อยๆ ปะติดปะต่อเรื่องราวจากข้อมูลทั้งหมดในม้วนกระดาษแผ่นบาง ดวงตาสีทับทิมมองจ้องเข้าไปในแผ่นกระดาษราวกับจะมองทะลุได้ ก่อนจะพึมพำออกมาอย่างเลื่อนลอย
"ผู้ใช้ภาชนะโลหะ..."


ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าที่บัลแบดคงจะตรวจไม่พบภาชนะโลหะขององค์หญิงอาลีบาบา เพราะไม่งั้นก็คงยืนยันได้ไปนานแล้ว แต่การที่องค์หญิงที่เป็นถึงรัชทายาทไม่มีการเคลื่อนไหวเลยแบบนี้ ก็คงจะหมายความว่าองค์อาลีบาบาคงจะอยู่ในสถานการณ์ที่ปรากฏตัวไม่ได้ หรือก็คือ ไม่ได้อยู่บัลแบดอีกต่อไปแล้ว...


"อาลี!!"
ร่างสูงผละออกจากโต๊ะทันที เมื่อนึกได้ว่ามีสิ่งที่สำคัญกว่าต้องไปทำ ขณะที่ใบหน้าของผู้เป็นน้องชายถูกแปะด้วยเครื่องหมายคำถามเต็มใบหน้า ขายาวก้าวออกจากห้องออกไปอย่างรวดเร็วจนแผ่นกระดาษที่วางไว้มุมโต๊ะปลิวว่อน

โคเอนกึ่งเดินกึ่งวิ่งย้อนกลับมาที่ห้องนอน มือใหญ่กระแทกประตูเข้าไปอย่างไม่ลังเล ดวงตาที่หัวคิ้วแทบจะทิ่มลงมาถึงหัวตาจ้องมองลูกกวางสีทองตัวน้อยบนเตียงที่เพิ่งจะสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ใบหน้าหล่อคมก็พลันนิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อดวงตาคู่สวยกระพริบปริบๆมองมาทางเขาอย่างไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวอะไร ก่อนมือใหญ่จะค่อยๆอ้อมไปด้านหลังลงกลอนประตูอย่างเงียบเชียบ


คนตัวผอมบางมองไปรอบๆห้องใหญ่โอ่โถงและเตียงหลังกว้างที่ประดับม่านบางดุจใยบัวสีสวย ก่อนจะสะบัดหัวเล็กน้อยไล่ความง่วงออกไป
"นี่มัน เกิดอะไรขึ้นหรอโคเอน?"
ดวงตาสีบุษราคัมน้ำงามจ้องมองร่างทะมึนที่เดินเข้ามาใกล้ๆเตียงเรื่อยๆด้วยดวงตาแป๋วแหวว ราวกับไม่ได้ถูกสอนจากแม่กวางให้รู้จักระวังผู้ล่าแม้แต่น้อย ด้วยความชะล่าใจยามที่ได้คลุกคลีกับราชสีห์หนุ่มที่กำลังบาดเจ็บจนตาบอดมองไม่เห็นเขี้ยวเล็บที่แหลมคมนั่น

"ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้.."
คนที่อยู่บนเตียงมองร่างสูงที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาจากปลายเตียงหลังกว้างอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยขยับถอยทีละนิดเมื่อใบหน้านั้นฉายแววความไม่ชอบมาพากล แถมตอนนี้ยังกลับมาไว้เคราแพะแล้วด้วย...

"โคเอ..เหวออ!! เดี๋ยวดิ! นี่นายจะทำอาร้ายยยย"
คนตัวเล็กพลิกตัวคลานหนีทันทีเมื่อจู่ๆก็ถูกล็อคเอวเอาไว้แน่น มือเล็กดึงผ้าปูเตียงกระเสือกกระสนให้พ้นอ้อมแขนที่ล็อคเอวเขาตนเอาไว้แน่นราวกับคีมหนีบ

"อย่าร้องสิ!"

"นายจะบ้าหรอ! ปล่อยนะโว้ยยย ทำบ้าอะไรเนี่ย!!!"
อาลีดึงขอบกางเกงขึ้น มองใบหน้าที่แผ่ออร่าคุกคามก่อนจะจะพยายามดิ้นกระดึ๊บสุดชีวิตในขณะที่อีกมือหนึ่งยื้อยุดฉุดกระชากกางเกงที่ถูกคลายเชือกจนหลวมโพลก

'ใครมาแก้เชือกกางเกงตอนไหนวะเนี่ย!'

"ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย"

โคเอนกระชากกางเกงของคนที่ดิ้นขัดขืนอย่างสุดแรงจนมือชื้นเหงื่อที่สั่นริกด้วยความตื่นตระหนกจนไม่อาจต้านทานแรงเอาไว้ได้ ก่อนขอบกางเกงจะค่อยๆเลื่อนหลุดออกจากเอวเผยให้เห็นสัดส่วนอ้อนแอ้นสวยงามเกินชายลงมาถึงก้นกลมนุ่มนิ่มและท้องขาอ่อนเปลือยเปล่า มือคู่ใหญ่ใช้กำลังพยายามจับเอวเล็กให้พลิกหันหน้ากลับขึ้นมาจนบั้นเอวขาวเนียนแดงเป็นรอยฝ่ามือ

"หันหน้ากลับมานี่!"

"นี่นายบ้าไปแล้วหรอ!!"
คนที่ตัวเล็กกว่าหน้าแดงซ่านสติเตลิดเปิดเปิงร้องโหยหวนเมื่อรู้สึกได้ถึงไอเย็นวูบที่พัดกระทบแก้มก้น เนื้อตัวบางๆถูกดึงจับพลิกมาอยู่ในท่านอนตะแคงได้ในที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นโคเอนก็ยังไม่ละความพยายาม มือใหญ่กดไหล่บางที่พยายามห่อขดเป็นตัวนิ่ม เอาตัวขึ้้นคร่อมตรึงคนที่พยายามดิ้นรนให้หยุดนิ่ง

การกระทำอุกอาจนั้นไม่อาจที่จะขัดขืนได้แม้แต่น้อยแขนเล็กที่ยื้อยุดจนหมดแรงเอามือก่ายหน้าที่แดงซ่านอายจนไม่รู้จะอายยังไง ขณะที่มือดึงชายเสื้อลงมาบังจุดสงวนสุดชีวิต

...แต่มันก็ไม่ทันการเสียแล้ว...

"นี่นาย..ร้องไห้หรอ?"

"..."

"มันก็ไม่ได้เล็กขนาดนั้นหรอก.."

"..."

"ถ้าไม่มั่นใจเรื่องขนาดล่ะก็ ปรึกษาโคฮา..."

"มันไม่ใช่เรื่องนั้นโว้ยยย!"
คนตัวเล็กที่ถูกกดทับอยู่โวยด้วยน้ำเสียงอุดอู้ในลำคอในขณะที่ยังเอาแขนก่ายหน้าเอาไว้ทั้งๆอย่างนั้น


องค์ชายใหญ่ที่หมดคำแก้ตัวใดนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งหลังจากที่ได้เห็นพวงตรงนั้นเต็มสองตาตัวเอง ใบหน้าสุขุมที่ยังคงดูใจเย็นได้ทุกสถานการณ์มองใบหูเล็กน่ารักสีแดงเข้ม ก่อนจะขยับตัวออกเล็กน้อยเลื่อนผ้าห่มขึ้นมาห่มให้คนที่นอนเอามือปิดหน้าแน่นิ่งอย่างเงียบๆ เอาเป็นว่าตอนนี้เขาเชื่อแล้วก็ได้ว่าองค์หญิงอาลีบาบามีน้องชายฝาแฝด


"เย็นนี้อยากกินอะไรมั้ย"

สิ้นเสียง คนตัวเล็กก็ใช้มือดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปงไม่พูดตอบโต้ใดๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันน่าหนักอกหนักใจของผู้เป็นเจ้าของห้อง

แล้วทำไมเขาจะต้องมาหนักใจด้วยเนี่ย ห้องก็ห้องเขา เตียงก็เตียงเขา ไอ้ความรู้สึกที่เหมือนกำลังโดนขับไล่ออกจากห้องตัวเองนี่มันอะไรกัน!?


"ขอโทษ..."
เสียงที่เบาบางราวกับเสียงกระซิบเอ่ยขึ้น นึกไม่ถึงว่าตัวเขาที่เป็นถึงองค์ชายลำดับหนึ่งจะต้องมาง้อมือขวาตัวเอง แถมอายุก็ปูนนี้ยังทำตัวเข้าข่ายโรคจิตทำอนาจารเด็กอีก

"..."

"ยังไงข้าก็ยังสงสัยเรื่องนั้นน่ะ.."
'ใช่ ก็มันชอบทำตัวติ๋มๆให้น่าสงสัยเองนี่หว่า..'

"..."

"นี่..อาลี ได้ยินมั้ย ข้าขอโทษแล้วไง"
น้ำเสียงทึี่ดูเว้าวอนนั้นเรียกให้คนที่น้ำตาคลอโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มทีล่ะน้อยก่อนจะพบว่าเจ้าของใบหน้าหล่อคมปรกผมสีแดงเข้มนั้นจะอยู่ใกล้เสียจนได้กลิ่นหอมของเครื่องอาบน้ำ เมื่อเห็นดังนั้นจึงมุดหัวกลับเข้าไปผ้าห่มเช่นเดิมราวกับปูเสฉวนตัวน้อยที่หดเข้าไปในบ้านเปลือกหอยดูน่าเอ็นดูเกินกว่าที่โคเอนจะใช้น้ำเสียงตวาดด้วยความโมโหได้
"นี่อาลี ข้าอุตส่าห์ลดตัวขอโทษเจ้าขนาดนี้แล้ว คิดจะมุดอยู่ในผ้าห่มไปจนถึงเมื่อไหร่..."

"..."

"จะให้ถกคืนก็ได้นะ"

ทันทีที่โคเอนพูดจบคนที่มุดอุดอู้ในผ้าห่มโผล่หัวขึ้นมาชักสีหน้าทั้งหน้าตาคลอ ถ้าจะให้พูดล่ะก็ มันดูน่ารักน่าแกล้งเสียมากกว่าที่จะทำให้โคเอนรู้สึกผิดซะอีก

"คิดจะทำอะไรของนาย..."
เสียงอู้อี้ใต้ผ้าห่มดังขึ้น


คนตัวใหญ่นิ่งไปครู่หนึ่ง จนความคิดที่จะกลบเกลื่อนเรื่องที่ทำลงไปเมื่อกี้นี้จะแล่นเข้ามาในหัว
"เอาเป็นว่าไม่ใช่เรื่องอย่างว่าก็แล้วกัน อีกอย่างก่อนหน้านี้เกือบจะกลายเป็นสนมองค์จักรพรรดิไปแล้ว กับเรื่องพรรค์นี้อย่ามาทำอินโนเซ้นต์หน่อยเลยน่า"

"สนม?"อาลีขมวดคิ้วมุ่น ก็ก่อนหน้านี้เขาไปดื่มน้ำชากับท่านคุเรไนที่เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่นี่นา สนมอะไรกัน อีกอย่างคนที่พยายามกระทำชำเราเขาอยู่ตอนนี้คือองค์ชายเคราแพะนี่ต่างหาก

มือเรียวปาดน้ำตาที่เอ่อคลอก่อนจะมุดกลับลงไปจนโผล่มามาแค่กลุ่มผมตั้งเด่สีทองๆกับดวงตาแดงเหมือนคนเพิ่งร้องไห้เสร็จ มองคนตรงหน้าที่กำลังทำสีหน้าไม่พอใจ

"ห๊ะ? นี่ไม่รู้สึกตัวบ้างเลยหรอว่าโดนวางยาสลบไปตอนไหน ไม่สิที่น่าแปลกใจกว่านั้นนี่นายไม่รู้รึไงว่าคนที่นายไปนั่งจิบชาด้วยเป็นใครงั้นหรอ!?" โคเอนลูบหน้าแรงมองคนที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่มได้ครึ่งหนึ่งอย่างหนักใจ

"ก็ท่านราชครูคุเรไนไง.."

โคเอนเอามือสองข้างลูบหน้าแรงๆเป็นรอบที่สามของวัน ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็เขาอยากจะเอาสองเท้าที่เหลือนี่ขึ้นมาลูบหน้าตัวเองแรงๆซะให้รู้แล้วรู้รอด
"นายนี่มัน...คนคนนั้น ตาแก่ตัญหากลับนั่น เป็นพ่อแท้ๆข้าเอง"


"พ่อ? จะเป็นไปได้ยังไง ก็.."

"ก็อะไร? คนที่เป็นพ่อขององค์ชายเขาเรียกว่าอะไร ขนาดเด็กสามขวบยังรู้เลย ตั้งสติหน่อยได้มั้ย รึในถ้วยชานั่นมันใส่ยาที่ทำให้สมองเอ๋อลงไปด้วย"โคเอนได้ทีบ่นคนตัวเล็กที่ตัวเองนั่งคร่อมอยู่ กลบเกลื่อนเรื่องเมื่อครู่อย่างแนบเนียน

"ถ้ายังงงอยู่ล่ะก็ ใส่กางเกงแล้วไปส่องกระจกไป ดูซะว่าที่คอนายแดงช้ำขนาดไหน"
ใช่ที่คอนั่น เขาไม่ได้ทำอะไรกับมันเล้ยยยย ทั้งหมดเป็นฝีมือของพ่อเขาล้วนๆ ทั้งรอยที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมนั่นก็ไม่เกี่ยวกับเขาซักนิ๊ดดด(เสียงสูง)

อาลียังคงจ้องหน้าคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะดึงกางเกงที่ร่นไปถึงหัวเข่าขึ้นมาใส่มัดยุกยิกยุกยิกใต้ผ้าห่ม ในขณะเดียวกันก็ยังคงจ้องหน้าโคเอนอย่างไม่ไว้วางใจ แม้แต่ตอนขยับตัวลุกออกจากเตียงไปส่องกระจกก็ตาม

"นี่มัน..."
'แดงมากจริงๆซะด้วย'
นี่ถูกทำอะไรไปบ้างตอนที่หลับไปฟะเนี่ย องค์จักรพรรดิทรงโปรดปรานเด็กผู้ชายหรอกหรอ แล้วทำไมถึงได้ตื่นมาบนเตียงโคเอน?

โคเอนที่ดูเหมือนจะอ่านสีหน้าของคนตัวเล็กออกพูดขึ้นมาทันทีอย่างกับอ่านใจคนได้
"ไม่ต้องห่วงหรอก เพราะพ่อข้าคิดว่าเจ้าเป็นผู้หญิง จนถึงตอนนี้ก็ยังคงเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงอยู่แสดงว่านอกจากนั้นก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยเถิด ไม่งั้นเจ้าคงโดนพ่อข้าจับตอนเป็นขันทีไปแล้ว"

"ถะ..ถ้างั้น เราก็ต้องรีบกลับไปอธิบายสิ!"

"อยากตายรึไง นี่เจ้าจะไปฉีกหน้าจักรพรรดิที่ปกครองดินแดนถึงสามแว่นแคว้น ด้วยการประกาศว่าองค์จักรพรรดิทรงชอบเด็กผู้ชายหรอ? แถมยังพยายามจะข่มขืนเด็กผู้ชายด้วย นี่ยังรักชีวิตตัวเองอยู่รึเปล่า" คนตัวใหญ่ที่บัดนี้นั่งขัดสมาธิเท้าคางอยู่บนเตียงเอ่ยด้วยเสียงที่จงใจแหนบแนม

"แล้วจะทำยังไงดี! แบบนี้มันก็เป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่หรอ หรือข้าต้องรีบออกจากวัง.."

โคเอนมองท่าทีกระวนกระวายนั้นของคนที่ยืนอยู่หน้ากระจกอย่างรู้สึกขบขัน อีกใจหนึ่งก็รู้สึกสงสารนิดหน่อยแต่ความรู้สึกตลกกับความวายป่วงของชีวิตคนตรงหน้ามันมีมากกว่าจนอดหัวเราะออกมาไม่ได้

"นายหัวเราะหรอ? นี่มันไม่ตลกเลยนะ! ข้าต้องลี้ภัยออกจากวังต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อน ต้องหนีออกจากประเทศเลยนะ ต้องโดนเนรเทศ นี่มันน่าขำตรงไหน?"

"เรื่องนั้น..ข้าบอกกับองค์จักรพรรดิไปแล้วว่าเจ้าเป็นผู้หญิงของข้า เราได้เสียกันแล้ว ไม่ต้องห่วงเขาคงไม่มายุ่งวุ่นวายอะไรกับผู้หญิงของลูกตัวเองหรอก ที่เหลือก็แค่ทำตัวตะมุตะมิใส่กันออกสื่อก็พอ เหมือนอย่างที่ทำที่อูกิไง "


...นัั่นแหละที่มันน่าห่วงเลยเว้ย!!!...
อาลีขยี้หัวจนฟูฟ่องเครียดที่ไม่รู้จะเครียดเรื่องความแตกว่าเป็นชายแล้วจะถูกตอนเป็นขันที หรือเรื่องที่โคเอนโกหกไปดี แค่ปรกติก็โดนทหารยันนางกำนัลนินทาจนหมดไส้หมดพุงอยู่แล้ว นี่ยังต้องมาทำตัวแบบนั้นใส่กันอีกหรอ!? แบบนี้มันจะกลายเป็นข่าวซุบซิบดังไปทั่ววังอ่ะเด่ะ



"ก็แค่ทำตัวปรกติเหมือนตอนที่อยู่วัดร้างไม่เห็นมีอะไรต้องห่วงตรงไหน"
โคเอนโยนเรื่องให้อาลีกังวลเล่นอย่างไร้ความรับผิดชอบ กลบเกลื่อนเรื่องที่ตัวเองพึ่งทำไปเมื่อกี้ ก่อนลุกออกจากเตียงทำท่าจะเดินออกจากห้องไป

'ทำตัวเหมือนที่อูกิหรอ? ทั้งๆที่เรื่องนี้มันควรจะจบไปได้แล้วแท้ๆ...'
"ดะ เดี๋ยวสิ! แล้วเรื่องผู้หญิงคนนั้นล่ะ เธอจะคิดยัง?"
คนที่หลุดปากถามไปแทบจะเอามือตีปากตัวเอง

'แล้วนี่เขาถามเรื่องนั้นไปทำไมวะเนี่ย ปัดโถ่!!'


"ผู้หญิง?"
โคเอนที่กำลังจะเดินออกจากห้องหันมาทำหน้างงใส่คนที่กำลังแตกตื่นจนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ไปแล้ว(ถือว่าภารกิจสำเร็จลุล่วง)

"เธอจะรู้สึกยังไง แล้วนายจะรู้สึกยังไง แบบนี้ความสัมพันธ์ระหว่างนายกับเธอจะยิ่งไม่แย่ไปกันใหญ่หรอ?"

ผู้หญิงคนนั้น คนที่ทำให้โคเอนรอดพ้นจากมนต์ของราชินีแคว้นเหมันต์มาได้ คนที่แม้แต่โคเอนก็ไม่อาจเอื้อมมือไปถึง คนที่เขาได้แต่เอามาตัดพ้อเปรียบเทียบกับตัวเองอยู่ร่ำไป…


"เรื่องนั้นมันสำคัญอะไรตรงไหน"
คนตัวสูงพูดถ้อยคำที่แสนเย็นชาออกมาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย จนดวงตาสีทองประกายคู่สวยจำต้องหลบสายตา เมื่อพูดในเรื่องที่ไม่ควรพูดออกไป

"ก็..มัน..."

"เลิกทำหน้าโง่ๆแล้วกลับไปพักที่ห้องไป พรุ่งนี้เราจะไปตำหนักขององค์หญิงฮาคุเอย์กัน ยังเหลือเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะแยะ"
โคเอนก้าวเท้าออกไปจากห้องอย่างไม่แยแสคนที่ยังอยู่ในห้อง เดินย้อนกลับไปยังห้องทำงานที่เขาเพิ่งวิ่งออกมาเมื่อไม่นานนี้ ใบหน้าเรียบนิ่งที่ซ่อนความวุ่นวายใจเอาไว้ครุ่นคิดถึงท่าทางเป็นห่วงเป็นใยเรื่องของเขาเมื่อครู่

ที่อาลีพูดออกมาแบบนั้น...

ห่วงเรื่องระหว่างข้ากับฮาคุเอย์ขนาดนั้น ก็คงหมายความว่า หมอนั่นเองก็คงจะมีแต่เด็กที่ชื่อคาซิมอะไรนั่นอยู่เหมือนกัน


'ตอนที่ข้าถามเด็กคนนั้น เขาก็บอกว่าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับเจ้าเป็นพิเศษด้วยนี่นา ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาเจ้าเอาแต่บังคับบงการชีวิตนางหรอกหรอ'


"น่ารำคาญ"
เสียงที่ยังคงดังวนเวียนในหัว เรียกเสียงถอนหายใจฮึดฮัด จนทหารยามหน้าห้องเอกสารกรอกตาเลิกลั่ก ปลายเท้าคู่ใหญ่หยุดชะงัก หมุนตัวออกจากหน้าห้องทั้งที่มือยังไม่แม้แต่จะแตะบานประตู ก่อนหันมาเจอกับหญิงสาวในชุดสีกลีบบัวเจ้าของรอยยิ้มอันคุ้นเคย สีหน้าของเธอดูตกใจเล็กน้อยเมื่อมองหน้าเขา แต่ไม่นานนักก็พลันเปลี่ยนเป็นยิ้มบางๆที่มองดูแล้วสบายใจ

"ท่านโคเอน? มีอะไรอย่างนั้นหรือคะ"
ดวงตาสีนิลวาวมองท่าทางของคนตรงหน้าพลางส่งยิ้มละมุน เพียงแค่ดูสีหน้าเธอก็รู้แล้วว่าแม่ทัพใหญ่แห่งเจิดจรัสกำลังอยู่ในช่วงไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

แต่ยังไม่ทันที่คนตัวสูงจะตอบอะไรนั้น มือใหญ่คว้าแขนบางของหญิงสาวตรงหน้าเอาไว้ทันทีจนไหล่บางสะดุ้งเล็กน้อย



"ฮาคุเอย์..ออกไปข้างนอกเป็นเพื่อนข้าหน่อย"






☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆



สารภาพว่าที่ยังไม่ลงซักทีเพราะคิดชื่อตอนไม่ออกค่า (˃ᆺ˂ ✿)
ช่วงนี้อยากอ่านฟิคคู่เสี่ยอาลีมาก นึกได้ว่าเคยอ่านเรื่องนึงสนุกมากแต่ตอนนี้หาไม่เจอแล้วไม่รู้ว่าคนเขียนมาอัพเพิ่มมั้ย แต่อยากอ่านอีกมั่กๆ

เนื้อเรื่องประมาณว่า อาลีปลอมตัวเป็นผู้หญิงเข้าไปอยู่ที่เจิดจรัสคือระหว่างทางไปเกิดเหตุเจอโจรปล้นวุ่นวานสันตะโร แต่ไปอยู่ที่นั่นในฐานะทูตจากเรมหรืออะไรนี่แหละ55 ไปนั่งกินอาหารกับพวกฮาคุเอย์แล้วโคเอนมาเห็นก็ลงโทษไม่ให้กินข้าวกินน้ำ(3วันมั้ง) ระหว่างนั้นก็มีฮาคุริวกับหนูโมลเป็นเด็กส่งน้ำ พอหลังจากทำโทษเสร็จก็ป่วย

มีหลายๆเรื่องที่เคยอ่านแต่ตอนนี้หาไม่เจอแล้ว (πーπ)ฮือออ อยากอ่านอีกอ่า เรื่องที่ไปติดตามล่าสุดก็ไม่อัพซักที ฟิครีบอร์นคู่XS เรื่อง love posion baby blood ผ่านมาหลายปีก็ยังคงค้างอยู่ตอนที่10 (_ _|||)





ตอนนี้มีคนเข้ามาช่วยจัดการเรื่องงานซับงานแปลให้ด้วยอีกสองคนค่ะ ความจริงก็เข้ามาช่วยงานไรท์ได้ซักพักหนึ่งแล้วแต่ยังไม่อยากเปิดเผยตัว55 พอทำปกเพจใหม่คิดว่าอยากใส่สองคนนี้เข้าไปด้วยเลยออกมาอย่างที่เห็นค่ะ

//ยูนิคอร์นนี่มันน่ารักจริง โอ้ววว (♥ω♥ ) ยูนิคอร์นนนน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น