ข้าองค์หญิงลำดับที่8แห่งจักรวรรดิ์เจิดจรัส นามว่าโคเกียคุ ตอนนี้กำลังประสบเหตุการณ์ที่แสนยากลำบากที่สุดในชีวิตอยู่...
"อย่าบอกนะคนที่เจ้าพามาคือองค์หญิงลำดับที่หนึ่งแห่งบัลแบด"
ชายหนุ่มผมสีแดงรูปร่างสมส่วนยืนกอดอกมองร่างของคนป่วยที่นอนหายใจแผ่วอยู่บนเตียงอย่างใจเย็น คิ้วที่เรียวไปตามกระบอกตานั้นขมวดขึ้น ราวกับกำลังพินิจพิจารณาบางอย่าง ก่อนใบหน้าหล่อเหล่าที่ดูยังไงก็ไม่เข้ากับเคราแพะเลยซักนิดจะหันไปมองน้องสาวของตน
"ท่ะ ท่านพี่โคเอน..คือว่า ฟังข้าก่อนนะ"
.
.
.
ก่อนหน้านี้
"อย่างงี้นี่เอง เพราะเจ้าอุปกรณ์เวทนี่เลยทำให้อาลีบาบาจังกลายเป็นผู้ชายสินะ แต่เจ้านี่มันถอดไม่ออกเลยแฮะ ทำไงดี.."หญิงสาวพูดกับผู้ติดตามของตนอย่างเป็นกังวล
"ถ้าหากเป็นพวกอุปกรณ์เวทที่มีสูตรคำสั่งจำเพาะแบบนี้ เห็นทีจะต้องให้ผู้เป็นเจ้าของเป็นคนถอดให้เองเท่านั้นขอรับ"
"โมลเซียน่า เจ้าก็น่าจะรู้จักคนที่ใส่ได้สินะ ถ้าจะพาอาลีบาบาจังกลับไปทั้งๆแบบนี้ ตำแหน่งองค์หญิงรัชทายาทได้เป็นโมฆะแหงๆ" คราวนี้โคเกียคุหันไปทางสาวเฟอนาริสผมแดงที่ยืนอยู่ไม่ไกล
แม่สาวเฟอนาริสเองก็ได้แต่ส่ายหัวอย่างหมดหนทางท่าเดียว
"คนที่ตำหนักโดนฆ่าหมด แล้วเธอคนนั้นก็เป็นคนสลับตัวกับท่านอาลีบาบา พวกเราถึงหนีออกมาได้ เพราะงั้น..."
ประกายในดวงตาคู่สวยของโมลเซียน่าไหววูบก่อนจะทำหน้าเหมือนคิดอะไรออก
"จะว่าไปแล้วข้าได้ยินว่าเขามีครอบครัวอยู่ที่เรม ถ้าไปที่เรมล่ะก็อาจจะถอดเจ้าอุปกรณ์เวทนี่ออกก็ได้!"
"งั้นก็ดีเลย! ถ้าอาลีบาบาหายดีแล้วก็พาไปหาท่านพี่ของข้ากัน ท่านพี่ต้องช่วยได้แน่ๆ.."
ก็อก ก็อก ก็อก
ยังไม่ทันไรเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น..
ก่อนเสียงเคาะประตูของทหารผู้ติดตามเธอก็ดังขึ้นหน้าประตู
"ข้ามีเรื่องสำคัญมารายงานองค์หญิงโคเกียคุขอรับ"
"เข้ามา"คะโคบุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบ
ทหารหนุ่มเข้ามาก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าขององค์หญิงลำดับที่8แห่งเจิดจรัส แล้วรายงานเรื่องที่ตัวเองได้ยินมา
"ข้าได้ข่าวมาว่าเมื่อไม่นานมานี้มีการส่งทหารฝีมือดีที่เกิดจากการทดลองเวทมนต์กับสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยนและอุปกรณ์เวทมนต์บางอย่างไปยังบัลแบดขอรับ"
"หมายความว่ายังไงน่ะ"
โคเกียคุตีทำสีหน้าไม่เข้าใจและพยายามเรียบเรียงเรื่องราวให้ปะติดปะต่อกัน
"จะว่าไปตอนที่พวกเราถูกโจมตี ในวังเงียบมาก แถมยังไม่มีวี่แววว่าทหารจะเข้ามาช่วยเลยซักนิด
แถมยังมีคนที่แต่งกายสวมชุดแปลกๆ..." โมลเซียน่าหันไปมองทางโคเกียคุที่หันมามองหน้าเธอเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนต่างมีสีหน้าลำบากใจ
หากว่าสิ่งที่พวกเธอคิดนั้นเป็นเรื่องจริงล่ะก็...
"เจ้ารู้มั้ยว่าใครเป็นคนสั่งการส่งทหารไปยังบัลแบด!" โคเกียคุหันไปถามเสียงแข็ง
"ท่านโคเอนขอรับ"
คำตอบนั้นทำให้โคเกียคุได้แต่นิ่งตะลึงงัน คนที่เธอจะพึ่งได้นั้นกลับกลายเป็นคนที่สั่งการเองซะนี่
ไม่จริง! นี่มันหมายความว่าท่านพี่ต้องการจะฆ่าอาลีบาบาอย่างนั้นหรอ? แต่มันไม่มีเหตุผลเลย!?
"ข้าจะไปคุยกับท่านพี่ให้รู้เรื่อง!"โคเกียคุเตรียมหมุนเท้าก้าวออกจากห้องแต่ก็ต้องโดนมือของคะโคบุนคว้าแขนเอาไว้ซะก่อนจนโคเกียคุหันกลับมามองตาเขียวใส่
"ขออภัยองค์หญิง ข้าเห็นว่าตอนนี้ท่านควรที่จะใจเย็นลงก่อนดีกว่า ยิ่งท่านพลีพลามชีวิตขององค์หญิงแห่งบัลแบดก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากเท่านั้นนะขอรับ"หลังจากได้ฟังคำของคะโคบุน
โคเกียคุก็ทำสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็หยุดฝีเท้าอย่างช่วยไม่ได้ "แล้วจะให้ข้าทำยังไงล่ะ"
โคเกียคุก็ทำสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็หยุดฝีเท้าอย่างช่วยไม่ได้ "แล้วจะให้ข้าทำยังไงล่ะ"
"ในตอนนี้เราควรจะกระทำการอย่างรัดกุม มากที่สุดนะขอรับ" คะโคบุนยกพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
ก่อนจะยกพัดสีเขียวหยกของตนขึ้นมาปิดหน้าตามความเคยชิน
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ทันทีที่ท่านอาลีบาบาหายดีพวกเราก็กะจะออกเดินทางเลย"
โมเซียน่าหันไปพูดกับโคเกียคุด้วยรอยยิ้มที่หนักอึ้ง เพราะว่าพวกเขาไม่อาจรบกวนไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว ไม่ใช่แค่ตนเองที่จะตกอยู่ในอันตราย แต่ตำแหน่งขององค์หญิงโคเกียคุก็อาจจะสั่นคลอนได้
"งั้นในระหว่างนี้ก็ไปพักผ่อนเถอะ เจ้าน่ะไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เมื่อคืนก่อนจนถึงตอนนี้เลยไม่ใช่หรอ" โคเกียคุมองใบหน้าที่อ่อนล้าของโมเซียน่าอย่างเห็นใจ "อาลีบาบาก็พ้นขีดอันตรายแล้ว
คนของข้าจะเฝ้าที่นี่ไว้ให้เองไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ข้าเองก็จะอยู่ดูอาลีบาบาให้ซักเดี๋ยว เจ้าไปพักเถอะ"
โมลเซียน่าที่เริ่มเดินโงนเงนมาตั้งแต่เมื่อกี้เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองง่วงนอนแค่ไหน ก่อนมองไปยังใบหน้าของคนที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงอย่างเงียบเชียบด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง แล้วจึงตัดสินใจไปพักผ่อน
"ขอบคุณมากนะคะองค์หญิงโคเกียคุ" โมลเซียน่ายิ้มอย่างอ่อนล้า
โคเกียคุก็เพียงแต่ยิ้มตอบแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรจนกระทั่งโมเซียน่าเดินออกไป โดยมีคะโคบุนเดินนำไปยังห้องที่ตระเตรียมไว้
"นี่ก็บ่ายแก่ๆแล้ว อาลีบาบาจังก็ยังไม่มีทีท่าจะฟื้นขึ้นมาเลยแฮะ"
ปลายนิ้วเรียวจิ้มพวงแก้มสีชมพูที่เริ่มมีเลือดฟาดขึ้นมาบ้างแล้ว
นี่แหนะ จิ้มๆ
นี่ขนาดเป็นผู้ชายแล้ว ผิวยังสวยอยู่เลย
"จะว่าไปเจ้าหงอนนี่มันอะไรกัน"
มือเล็กๆพยายามลูบเจ้าผมที่ทั้งเด่ขึ้นมาให้ลู่ลงไป ไม่ว่าจะลูบกี่ครั้งต่อกี่ครั้งมันก็ยังเด้งขึ้นมาเหมือนเดิม ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับมือของโคเกียคุง่ายๆราวกับกำลังท้าทายกกำลังขององค์หญิงแห่งจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่
( ゚皿゚) ฮึ่ยยยย เจ้าหงอนนี่
.
.
.
"ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้เลยนะท่านพี่ กลายเป็นว่าองค์หญิงอาลีบาบาคนนั้นกลายเป็นรัชทายาทซะงั้น"ชายหนุ่มท่าทางผอมไร้เรี่ยวแรงอ่านเอกสารที่ได้รับมาเมื่อกี้นี้ ก่อนจะเกาผมยุ่งๆเหมือนก้อนผมให้มันยุ่งยิ่งกว่าเดิมเป็นรอบที่สิบ หลังจากอ่านรายงานจบ
"นางเป็นถึงผู้พิชิตดันเจี้ยน ข้าไม่เชื่อว่านางจะตายแล้วหรอกนะ"ชายรูปร่างสมส่วนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะในเครื่องแบบของแม่ทัพใหญ่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในแววตาสีทับทิมเข้มนั้นฉายแววขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด
"รู้งี้ข้าหน้าจะรับงานเป็นคนจัดการเรื่องบัลแบดตั้งแต่แรกซะก็ดี ไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้เลยแฮะ
แถมเหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปี อย่างกับว่าตัวตนขององค์หญิงจะถูกราชาแห่งบัลแบดปิดบังเอาไว้ยังไงก็ไม่รู้ ขนาดคนในบัลแบดเองก็เหมือนจะพึ่งรู้ว่าประเทศตัวเองมีเจ้าหญิงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ต่อจากนี้คงยุ่งยากกว่าที่คิดซะแล้วสิ" ชายหนุ่มเสนาธิการที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญใจ "รู้งี้จัดการเรื่องหมั้นหมายไปแต่แรกก็ดี..."
แถมเหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปี อย่างกับว่าตัวตนขององค์หญิงจะถูกราชาแห่งบัลแบดปิดบังเอาไว้ยังไงก็ไม่รู้ ขนาดคนในบัลแบดเองก็เหมือนจะพึ่งรู้ว่าประเทศตัวเองมีเจ้าหญิงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ต่อจากนี้คงยุ่งยากกว่าที่คิดซะแล้วสิ" ชายหนุ่มเสนาธิการที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆพูดด้วยน้ำเสียงรำคาญใจ "รู้งี้จัดการเรื่องหมั้นหมายไปแต่แรกก็ดี..."
"หืม...ดูเหมือนนายจะรู้เรื่องขององค์หญิงแห่งบัลแบดนี่เยอะเหลือเกินนะโคเมย์ สนใจงั้นหรอ?"
ร่างสูงของแม่ทัพใหญ่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะพูดจาหยอกล้อติดตลกก่อนจะหัวเราะเบาๆในลำคอ
"ป้าววว ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!" คนที่นั่งอยู่ข้างๆปฏิเสธทันควัน เมื่อเห็นคนที่นั่งหัวโต๊ะกระตุกยิ้มกับท่าทีของตนก็คิดหาทางเปลี่ยนเรื่องทันที "จะว่าไปตอนที่โคเกียคุกลับมาถึงเมื่อเช้านี้เห็นว่าพอมาถึงก็เรียกหมอหลวงไปที่ตำหนักทันทีเลย จนถึงป่านนี้ก็ยังไม่ได้มารายงานเรื่องที่ไปบัลแบดมาเลยด้วย"
"ข้าเองก็กำลังเป็นห่วงอยู่เหมือนกันว่านางอาจจะโดนลูกหลงจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้" แม่ทัพหนุ่มขมวดคิ้วหลังจากที่ช่วงนี้ต้องพบกับหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ไม่เป็นไปตามแผนที่เขาคาดการณ์เอาซะเลย "ข้าจะเยี่ยมโคเกียคุที่ตำหนักซะหน่อย เจ้าก็ไปด้วยกันสิโคเมย์"
ถึงแม้โคเมย์จะทำสีหน้าอิดออดไม่อยากไปด้วยเพราะอดนอนมาตั้งแต่เมื่อคืน ดูขอบตาอันเขียวคล้ำเหมือนแพนด้านั่นก็รู้ว่าเขาอยากจะเอนหลังนอนบนเตียงนุ่มๆในห้องตัวเองแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจผู้ที่เป็นทั้งหัวหน้าและพี่ชายของตน จำต้องยอมย้ายก้นออกจากเก้าอี้แล้วเดินตามออกไปอย่างช่วยไม่ได้
"นี่ ท่านพี่ ข้าว่ามันแปลกๆ"
ในระหว่างทางเดินเสนาธิการหนุ่มพูดขึ้นมากระทันหัน ในสมองของเขาคิดเรื่องนู้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อยจนอดไม่ได้ที่จะสงสัยแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
"อะไร?"
"อย่างโคเกียคุเนี่ยไม่หน้าโดนลูกหลงนะ ถึงได้รับบาดเจ็บจริง แต่นางมีภาชนะบริวารที่ใช้รักษาบาดแผลได้ไม่ใช่หรอ หรือว่านางจะป่วย"ดวงตาสีทับทิมอ่อนที่ขอบตาดำเพราะขาดการพักผ่อนมองไปยังตำหนักสีแดงเข้มที่อยู่เบื้องหน้า
ไม่ใช่ว่าสงสัยในตัวของน้องสาวตัวเองหรอกนะ แต่มันแปลก!?
"อ่ะ!? ท่านแม่ทัพใหญ่! ท่านเสนาธิการ!" ทหารยามที่อยู่ด้านหน้าเหงื่อตก รีบคุกเข่าลงทันที
"องค์หญิงโคเกียคุอยู่ในตำหนักใช่มั้ย"
"ขะ..ขอรับ" ทหารยามเหงื่อตกพลักๆเพราะแรงกดดันอันมหาศาล
ซวยล่ะ!
ยังไม่ทันที่ทหารยามยศต่ำต้อยจะได้พูดอะไรต่อ องค์ชายทั้งสองก็เดินผ่านเข้าไปยังตำหนักด้านในโดยที่ทหารยามที่ท่าทางหน้าจะตกงานวันนี้ได้แต่ยืนเหงื่อแตกโดยที่ทำอะไรไม่ได้
ไม่ใช่แค่โคเมย์เท่านั้นหรอกที่รู้สึกแปลกๆ...
ชายร่างสูงในเครื่องแบบแม่ทัพ สาวเท้าเร็วขึ้นก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้องที่มีแจกันดอกไม้ประดับไว้ข้างประตูอย่างสวยงาม "โคเกียคุ เจ้าอยู่ข้างในรึเปล่า"
เพล้ง!
มือใหญ่ผลักบานประตูเข้าไปอย่างรวดเร็วหลังจากได้ยินเสียงของกระเบื้องที่แตกกระจายกระทบพื้นห้องดังมาจากอีกฝากของประตู ทันทีที่ประตูเลื่อนเปิดออกภาพของขวด กระปุก โถ ไห จำนวนมากก็ประจักษ์แกสายตาของแม่ทัพหนุ่ม
ดวงตาเรียวคมมองไปยังน้องสาวที่กำลังถือหวีหลากหลายขนาด มองมาทางเขาด้วยท่าทางแข็งทื่ออีกทั้งยังมีขวดเศษขวดที่แตกกระจายเป็นเศษแก้วอยู่ใกล้ๆกับชายกระโปรงของเธอ
"ท่านพี่โคเอน! ท่านพี่โคเมย์!"
"นี่เจ้ากำลังทำ.."
ยังไม่ทันที่แม่ทัพหนุ่มโคเอนจะพูดจบ ร่างบอบบางของโคเกียคุที่อยู่ห่างออกไปหลายเมตรก็เข้าประชิดตัวของโคเอนด้วยความไวแสงก่อนจะพยายามดันพี่ชายทั้งสองให้พ้นประตูไป ผิดวิสัยขี้อายของโคเกียคุ ที่มักจะเว้นระยะห่างและเกรงใจเหล่าพี่ๆอยู่เสมอๆ
"คือตอนนี้ข้าไม่ค่อยสะดวก ท่านพี่ช่วยกลับกันไปก่อนเถอะ"
"เดี๋ยวก่อนสิโคเกียคุ..."
แม้มือเล็กๆจะผลักแรงสุดความสามารถลำพังร่างกายเล็กๆบอบบางขององค์หญิงที่ไม่เคยออกสนามรบไม่สามารถที่จะทำให้โคเอนขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
เหมือนมดกำลังดันเขาลูกใหญ่ไม่มีผิด..
โคเมย์ที่อยู่ด้านหลังถือวิสาสะอ้อมไปอีกทางไปอย่างเนียนๆ เดินตามขวดและกระปุกมากมายที่ล้มระเนระนาดเป็นทางไปอย่างเงียบๆ
"เดี๋ยวก่อนท่านพี่โคเมย์! ไปทางนั้นไม่ได้!"
ร่างบางพละจากพี่ชายคนโตก่อนวิ่งเข้าไปเกาะแขนของโคเมย์จนเซไปชนกับผนังอย่างแรง
หวีหลากหลายรูปร่างที่อยู่ในมือเธอถูกโยนทิ้งกระจัดกระจายส่งเสียงดังกระทบกับพื้นไปทั่ว
หวีหลากหลายรูปร่างที่อยู่ในมือเธอถูกโยนทิ้งกระจัดกระจายส่งเสียงดังกระทบกับพื้นไปทั่ว
แรงกระแทกของโคเกียคุทำให้โคเมย์รู้สึกได้ว่าร่างผอมบางของตนแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพนังห้อง
โคเกียคุเมื่อรู้สึกตัวก็หันไปมองหน้าพี่ชายทั้งสองที่ส่งสายตาไม่ไว้วางใจมาทางเธอ
สลับไปมา ก่อนจะเหงื่อไหลเป็นน้ำเหมือนคนเพิ่งซดต้มแซ่บมา
สลับไปมา ก่อนจะเหงื่อไหลเป็นน้ำเหมือนคนเพิ่งซดต้มแซ่บมา
"คือ..ว่า คือข้าวของมันรกมากเลย ขะ ข้าว่าจะทำความสะอาดก่อน"
"งั้นทำไมไม่เรียกสาวใช้มาซะล่ะ"โคเมย์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นทำเอาโคเกียคุขนลุกซู่ไปทั้งตัวโดยไม่รู้เหตุผล
"ชะ ใช่ ข้ากำลังจะทำแบบนั้นอยู่พอดีเลย ฮ่ะๆ" ร่างบางหัวเราะกลบเกลื่อน
สายตาเฉียบแหลมของโคเมย์มองไปยังหน้าประตูที่ไร้วี่แววของโคเอนอย่างเงียบๆ ก่อนจะหันมาทางโคเกียคุด้วยสีหน้าง่วงหงาวหาวนอนตามปรกติ
"ถ้าเจ้าไม่สะดวกงั้นข้าก็กลับล่ะ"
"เอ๊ะ.." (º△º) โคเกียคุยืนกระพริบตาปริบๆ มองแผ่นหลังที่ลู่ตกไร้มาดองค์ชายเคลื่อนไกลออกไปอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก
บทจะไปก็ไปง่ายๆอย่างงี้เลยหรอ...
"เฮ้อ~ โล่งอกไปที" ร่างบางเอามือทาบอกก่อนพ่นลมหายใจยาว
ถึงแม้จะสงสัยอยู่บ้างว่าพวกพี่ชายของเธอถ่อมาที่นี่ทำไมก็เถอะ แต่ก็ดีแล้วที่ยอมถอยออกไปง่ายๆ ยังไงก็เอาของพวกนี้ไปเก็บก่อนดีกว่า ทั้งที่คิดว่าของพวกนี้น่าจะทำให้หงอนนั่นมันลู่ลงไปได้แท้ๆ ทาไปแปปเดียวก็เด้งกลับขึ้นทาอีก (。 ー`ωー´) หึ่ย
ร่างบางเอื้อมมือไปเก็บขวดที่กลิ้งคลุกๆอยู่บนพื้นอยู่ซักพักหนึ่งอย่างสบายอารมณ์ ก่อนจะรู้สึกถึงความผิดปรกติบางอย่างที่พึ่งนึกขึ้นมาได้
เอ...จะว่าไป ท่านพี่โคเอน...
ท่านพี่โคเอนหายไปไหนหว่า (ㆆ_ㆆ)
(ㆆ_ㆆlll) อืม..ข้าจำไม่ได้ว่าเดินออกไปนะ
( º言º) อะ..
(ㅇㅁㅇ)!!!!!!!
.
.
.
ร่างสูงสง่าขององค์ชายลำดับหนึ่งผู้ขึ้นชื่อว่าเก่งกาจที่สุดในเจิดจรัสก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอนที่ถูกตกแต่งไว้สวยงามอย่างเงียบเชียบ มีเพียงเสียงลมที่พัดหวิดหวิวเข้ามาทางหน้าต่างกระทบกับกระดิ่งลมอันเล็กๆจนเกิดเสียงไพเราะกังวาลไปทั่วห้อง อีกทั้งยังพัดกลิ่นหอมของกำยานที่ถูกจุดไว้ใกล้หน้าต่างเข้ามาสัมผัสกับจมูกโด่งเป็นสันได้รูปของแม่ทัพหนุ่มอย่างแผ่วเบาให้ความ
รู้สึกสงบ ก่อนร่างสูงเดินไปหยุดอยู่หน้าเตียงหลังใหญ่
รู้สึกสงบ ก่อนร่างสูงเดินไปหยุดอยู่หน้าเตียงหลังใหญ่
บัดนั้นสายตาเฉียบคมดุจราชสีห์จ้องจะตระครุบเหยื่อมองลอบผ่านผ้าม่านสีขาวบางที่ปักลวดลายงดงามหรูหรา เห็นภาพเลือนลางของกวางสีทองที่กำลังจมอยู่ห้วงนิททราหาได้รู้สึกถึงภัยอันตรายที่คลืบคลานเข้ามาตรงหน้าไม่
ทันทีที่มือใหญ่แหวกผ่านผ้าม่านบางทำลายเกาะป้องกันอันบางเบา ภาพของโฉมงามสะคราญ
ที่หลับตาพริ้มอย่างงดงามปรากฏต่อหน้าแม่ทัพหนุ่มผู้อาจหาญ หากจะเปรียบเป็นเหยื่ออันโอชะ
ที่หลับตาพริ้มอย่างงดงามปรากฏต่อหน้าแม่ทัพหนุ่มผู้อาจหาญ หากจะเปรียบเป็นเหยื่ออันโอชะ
แต่ก็คงเคลือบยาพิษร้ายแรงที่กำลังฉาบย้อมหัวใจของราชสีห์หนุ่มเป็นแน่แท้
โดยที่ไม่รู้ตัว นิ้วมือเรียวก็เอื้อมไปสัมผัสเส้นผมยาวสีทองที่นุ่มลื่นเหมือนเส้นไหมอย่างแผ่วเบา
แล้วใช้นิ้วแตะลงบนกลีบปากบางสีแดงอุ่นที่ให้ความรู้สึกดี ก่อนเลื่อนปลายนิ้วไปเขี่ยพวงแก้มชมพูอ่อนและปลายจมูกที่เชิดรั้นนั่นอย่างเพลิดเพลินจนลืมเหตุผลที่ตนมายืนอยู่ตรงนี้ไปเสียสิ้น นิ้วเรียวของร่างสูงอังลมหายใจอุ่นที่พ่นออกมาอย่างกระท่อนกระแท่น ก่อนจะพบว่ามันช่างแผ่วเบาจนหน้าใจหาย
ดวงตาเรียวคมเลื่อนสายตาไปมองบางสิ่งบางอย่าง ที่รบกวนจิตใจของตนมาตั้งแต่เมื่อกี้ ก่อนจะเลื่อนมือไปกำตรงกลุ่มผมที่ตั้งเด่นั่นอย่างรำคาญใจ มือใหญ่ๆรู้สึกได้ถึงความชื้นเปียก จากน้ำมันและของเหลวบางอย่างที่คาดว่ามาจากขวดโหลมากมายที่กระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง
"เจ้าหงอนนี่มันกวนใจข้าชะมัด" เสียงทุ้มๆพึมพำกับตัวเองอย่างแพ่วเบา
"ทะ..ท่านพี่โคเอน!!!!"เสียงเล็กดังขึ้นเบื้องหลังขององค์ชายผู้สูงศักดิ์แห่งเจิดจรัส
ร่างสูงที่เหมือนพึ่งรู้สึกตัว หันกลับไปมองทางต้นเสียงอย่างช้าๆ ในวินาทีนั้นหัวใจที่เต้นสั่นไหวของโคเกียคุแทบจะลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่มเสียให้ได้
"อย่าบอกนะคนที่เจ้าพามาคือองค์หญิงลำดับที่หนึ่งแห่งบัลแบด"ชายหนุ่มผมสีแดงรูปร่างสมส่วนยืนกอดอกมองร่างของคนป่วยที่นอนหายใจแผ่วอยู่บนเตียงอย่างใจเย็น คิ้วที่เรียวไปตามกระบอกตานั้นขมวดขึ้น ก่อนใบหน้าหล่อเหล่าที่ดูยังไงก็ไม่เข้ากับเคราแพะเลยซักนิดจะหันไปมองน้องสาวของตน
"ท่ะ ท่านพี่โคเอน..คือว่า ฟังข้าก่อนนะ"
"ข้ากะแล้วว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆล่ะนะ"เสียงโคเมย์ดังแทรกขึ้นมาด้านหลังของเด็กสาวที่กำลังยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะเดินเข้าไปพินิจพิจารณาใบหน้าของคนป่วยที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงด้วยดวงตานิ่งงัน "จากรูปลักษณ์คิดว่าไม่ผิดแน่ ผู้หญิงคนนี้คืออาลีบาบา ซารูจา องค์หญิงลำดับที่หนึ่ง แห่งบัลแบด"
"เข้าใจผิดแล้วท่านพี่โคเมย์! คนคนนี้น่ะเป็นแค่คนที่ติดตามข้ามาจากบัลแบดเท่านั้น
ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ซารูจาเลยซักนิด!" โคเกียคุรวบรวมความกล้าโกหกออกไป
โดยไม่ห่วงถึงสถานะองค์หญิงของเธอแม้แต่น้อย ถึงแม้เธอจะรักเหล่าพี่ๆของเธอขนาดไหน แต่ก็ไม่อาจทนเห็นเพื่อนเพียงคนเดียวถูกฆ่าได้
โดยไม่ห่วงถึงสถานะองค์หญิงของเธอแม้แต่น้อย ถึงแม้เธอจะรักเหล่าพี่ๆของเธอขนาดไหน แต่ก็ไม่อาจทนเห็นเพื่อนเพียงคนเดียวถูกฆ่าได้
"เขาเป็น...เป็น...ลูกของพ่อค้า ชื่ออับดุลต่างหาก!"
"เมื่อกลางวันนี้ข้าพึ่งได้รับข่าวมาว่า องค์หญิงรัชทายาทแห่งบัลแบดสิ้นพระชนม์แล้ว จะว่าไปประจวบเหมาะกับตอนที่เจ้าพาใครก็ไม่รู้กลับมาจากบัลแบดเลยนี่นา"โคเมย์มองด้วยแววตาที่มีแรงกดดันมหาศาลลอดผ่านช่องว่างของปลายพัดขนนกสีดำ ราวกับจะไล่ต้อนเจ้ากระต่ายขาเดียวที่ยืนตัวสั่นตรงหน้าเขาให้จนมุม
"..."
"ถึงการขึ้นครองราชของนางจะทำให้ทางเรายุ่งยากซักหน่อยก็เถอะ รู้งี้ข้าหน้าจะจัดการเรื่องนี้ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้ซะก็ดี"โคเมย์พูดด้วยสีหน้าเหมือนกำลังบ่นเรื่องจุกจิกกวนใจประจำวันบนโต๊ะอาหาร แต่ขณะเดียวกันโคเกียคุกลับหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าไก่ต้มแห้งๆในวันไหว้เจ้า
จัดการหรอ! หรือพวกท่านพี่หวังจะครอบครองบัลแบด!? ถ้าอาลีบาบาที่เป็นผู้ถือครองภาชนะโลหะขึ้นเป็นราชินีก็จะจัดการยากขึ้นอย่างนั้นหรอ เพราะงั้นก็เลย...
ไม่นะ! เรื่องโหดร้ายแบบนี้ ท่านพี่โคเมย์พูดออกมาหน้าตาเฉยได้ยังไงกัน!
โคเกียคุมองไปยังโคเมย์ที่กำลังจับจ้องไปที่อาลีบาบาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ(คิดเอาเอง)ด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อยในความไร้ความสามารถของตนเอง
...อืม สวยดีเหมือนกัน รู้งี้หมั้นไปตั้งนานล่ะ กะว่าจะรอคนพี่ขึ้นเป็นราชาก่อนแล้วค่อยสอยน้องสาวมาทีหลังแท้ๆ...
โคเมย์จ้องมองใบหน้าสวยที่หลับพริ้มอย่างสงบด้วยความเสียดาย ก่อนจะหันไปทางโคเอนที่ยืนอยู่อีกฝากหนึ่งของเตียง"แต่ถ้าท่านพี่อยากจะเป็นคนจัดการเองข้าก็ไม่เกี่ยงหรอกนะ" โคเมย์มองเห็นท่าทีพี่ชายของตน แววตาของโคเอนดูจะสนใจองค์หญิงที่กำลังหลับไม่ได้สติอยู่ไม่น้อย อีกทั้งเขาเองก็เป็นองค์ชายลำดับสอง จะให้มาแต่งก่อนองค์ชายลำดับหนึ่งก็กระไรอยู่
ไม่นะ! ท่านพี่โคเอนน่ะหรอ!?
โคเกียคุกลืนน้ำลายดังเอื้อก ถ้าให้ท่านพี่โคเอนจัดการ ทั้งอาลีบาบาทั้งบัลแบดคงไม่เหลือแม้แต่ซากอารยธรรมแน่
ต้องทำอะไรซักอย่าง!
"ท่านพี่เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว...อับดุลจะเป็น อาลีบาบาไปได้ยังไงกัน ข้าเองเคยไปบัลแบดตั้งหลายครั้ง พวกท่านจำผิดคนแล้วล่ะ" โคเกียคุพูดพลางหัวเราะแห้งๆ
"โคเกียคุ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเจ้าหรอกนะ แต่ข้าว่าเจ้าคงยังไม่รู้ว่าเรื่องที่เจ้ากำลังทำมันเป็นสิ่งที่หนักหนาเกินกว่าที่กำลังของเจ้าจะแบกไหวสินะโคเกียคุ" โคเอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ"ข้าคงต้องกักตัวเจ้า ก่อนจะเริ่มการสอบสวนพรุ่งนี้เช้า"
"ท่านพี่โคเอน!" โคเกียคุหน้าถอดสี ร่างกายของเธอโงนเงนจนแทบจะทรุดหลังจากได้ฟังคำคาดโทษจากพี่ชาย ไม่ใช่แต่ตัวเองที่อาจจะโดนถอดตำแหน่ง แต่อาลีบาบาและโมลเซียน่าก็อาจจะต้องเผชิญอันตรายไปด้วย
"ห้ามไม่ให้มีการเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาตจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น"ร่างของแม่ทัพหนุ่มเดินเข้ามาหาน้องสาวที่ยืนตัวแข็งทื่อก่อนจะยื่นมือออกมา"ระหว่างนี้คงต้องยึดภาชนะโลหะของเจ้าไว้ก่อน"
โคเกียคุถอดปิ่นปักผมที่ประดับพลอยออกอย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะวางลงบนฝ่ามือใหญ่ของโคเอนอย่างไร้ทางขัดขืน
"ตามข้ามา" ร่างสูงหมุนตัวเดินออกจากห้องไป โดยที่มีโคเกียคุเดินไหล่ตกตามหลังไปติดๆ
ก่อนจะหยุดฝีเท้าแล้วหันไปออกคำสั่งโคเมย์ที่ยืนอยู่เบื้องหลัง
ก่อนจะหยุดฝีเท้าแล้วหันไปออกคำสั่งโคเมย์ที่ยืนอยู่เบื้องหลัง
"ฝากที่เหลือด้วยนะโคเมย์"
☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆☆
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น