*ยังคงเป็นเนื้อเรื่องของตอนที่แล้วแต่คนละมุมมองค่ะ
ตอนนี้เป็นเหตุการณ์ในห้องแต่งตัวเจ้าบ่าวแทน
บิ๊บบิดิ้ บ็อบบิดิ้ บู เสกชุดสุดเท่ห์ลงบนตัวเจ้า
เสกให้เคราของเจ้าหายไปในคืนแห่งเวทมนต์
เสกให้ในคืนนี้เจ้าหล่อเหลากว่าผู้ใด อ่ะ! ยกเว้นข้านะ
"ไง...โคเอนไม่คิดจะมีปาร์ตี้สละโสดก่อนแต่งงานหรอ?"
เอลฟ์หนุ่มร่างเพรียวกระโดดเข้ามากอดคนที่เพิ่งเข้ามาถึงห้องทันที ในขณะที่คนตัวใหญ่ยังคงเดินต่อไปไม่สนอะไรทั้งนั้น ราวกับไม่มีอะไรเกาะแกะบนตัวเขา ก่อนเอลฟ์ผมดำขลับจะยิ้มซุกซนวาดปลายนิ้วเรียวเหนือแผงอกกว้างตรงหน้า"อย่าเย็นชานักสิ หรือจะให้ข้าเอาเรื่องเมื่อวานนี้ไปบอกคนอื่นดีน้า~"
"คิดว่าตัวเองเป็นแมลงสาปรึไง?ปล่อยฟีโรโมนแรงขนาดนี้ ถ้าฤดูจะมาก็ไปกินยาซะ"
จูดัลเบ้หน้าอย่างไม่พอใจเมื่อคนตรงหน้าไม่หวั่นไหวกับคำพูดของเขาแม้แต่น้อย อุตส่าห์เป็นคนแรกที่เขาเลือกจับคู่ด้วยแท้ๆ แต่วันๆดันทำงานเป็นบ้าเป็นหลังไม่สนใจโอเมก้าในฮาเร็มซักคนเดียว
"ข้าอุตส่าห์มาทำให้เจ้าผ่อนคลายแท้ๆ เห็นว่าเจ้าเพิ่งคุยกับฮาคุยูเครียดๆมา เอ..เรื่องอะไรน้าา อ่อใช่ๆ กลิ่นไอเทพที่แรงขึ้นของเจ้าเทพรับใช้ต๊อกต๋อยนั่นหรือเปล่านะ"
"เจ้าก็น่าจะรู้อยู่แต่แรกแล้วอย่ามาทำเป็นพูดหน่อยเลย"
โคเอนพ่นลมหายใจยาวในขณะที่มือก็ยังคงไม่ละไปจากปากกาขนนกและแผ่นกระดาษเขียนจดหมายตรงหน้า
"ลำดับขั้นมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าไม่นับข้าล่ะก็..ตอนนี้สุดรักสุดดวงใจของเจ้าถือเป็นเทพเพียงหนึ่งเดียวของเพลลูมโดยชอบธรรม" เอลฟ์หนุ่มพูดกระซิบช้าๆก่อนจะค่อยๆขยับสะโพกมนเย้ายวนไปมาอย่างเนิบนาบ "ดูท่า...มหาเทพน้อยอาลาดินอวตารแห่งโซโลมอนคงจะมีปัญหาในการจัดการวิหารศักดิ์สิทธิ์แล้วล่ะนะ"
"แบบนี้ข้ายิ่งต้องรีบ..."
เอลฟ์หนุ่มเอวบางชักสีหน้าไม่พอใจกับท่าทางนิ่งเฉยนั้น พอๆกับโคเอนน้อยที่สงบนิ่งไม่สนใจการยั่วยวนของเขาแม้แต่น้อย
นี่กกถึงขนาดนี้!!! ฟีโรโมนแผ่ซ่านถึงขนาดนี้!!! เจ้านี่มันตัดปืนใหญ่นีโออาร์มสตรอง ไซโคลนเจ็ทอาร์มสตรองตรงหว่างขาตัวเองทิ้งไปแล้วหรอ!
"จะเก็บไอ้นั่นไว้ฉี่อย่างเดียวเลยรึไง๊? เกิดมาเคยตั้มกับใครบ้างมั้ย? หรือต่อมรับฟีโรโมนเจ้ามันพังไปแล้ว!?"คนตัวบางเริ่มโวยอย่างหาเรื่องด้วยสีหน้าแดงจัดทั้งอายทั้งโกรธ ก่อนน้ำเสียงทุ้มต่ำของกุยผมแดงจะหัวเราะเบาๆอยู่ในลำคอขณะที่พับกระดาษจดหมายใส่ลงซองสีน้ำตาลอ่อน
"ข้าไม่เล่นกับเจ้าแล้ว น่าเบื่อ!"
จูดัลลุกพรวดพราดออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ เดินออกจากห้องสวนกับหนุ่มผมยาวตัวสูงเจ้าของสีหน้าอดหลับอดนอนที่เปิดประตูเข้ามาพอดี
"อยากจะเข้าพิธีวิวาห์ของตัวเองสายรึยังไงครับ?" โคเมย์พูดเนือยๆ แม้ว่าใบหน้าของตัวเองจะหันมองตามเอลฟ์ร่างเพรียวที่เพิ่งเดินออกไปตามสัญชาตญาณที่ถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นบางอย่างที่แผ่ซ่านออกมาอย่างขัดขืนไม่ได้
"ครั้งนี้ไม่สายหรอก"
ว่าที่เจ้าบ่าวคลี่ยิ้มบางก่อนจะผละตัวเองออกจากโต๊ะหลังจากส่งจดหมายเสร็จ
.
.
.
"ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็มีเพียงท่านบัลคาร์กเท่านั้นที่คอยดูแลท่านอาลีบาบาเหมือนพ่อคนหนึ่ง ท่านอาลีบาบาจะต้องยกโทษให้แน่นอนค่ะ" เด็กสาวพูดปลอบความกังวลใจให้กับขุนพลบัลแบดที่เดินไหล่ตกออกมาจากห้องแต่งตัวเจ้าสาว
"ข้าสัญญาจะเล่าเรื่องประเทศทางตะวันออกที่ข้าเพิ่งไปเยือนมาให้กับองค์ชาย เล่าเรื่องของถนนที่เต็มไปด้วยกังหันลมสีแดง ตลาดที่อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำตาลสายไหม แต่ดูเหมือนว่าคงจะทำไม่ได้อีกแล้ว..อย่างน้อยนี่ก็คงเป็นครั้งสุดท้าย" ดวงตาสีเข้มมองห่อของในมืออย่างเศร้าๆ ก่อนจะถูกเสียงฝีเท้าของใครบางคนเข้ามาขัดจังหวะ
หญิงสาวเจ้าของผมยาวสลวยสีน้ำหมึกที่เดินผ่านมาโค้งเล็กน้อยทักทายแขกจากบัลแบดที่เพิงมาเยือน
"ท่านเป็นตัวแทนจากบัลแบดสินะ ต้องขออภัยด้วยจริงๆที่พวกข้าไม่มีเวลาต้อนรับ"
บัลคาร์กรีบโค้งกลับไปในทันใดอย่างรู้สึกเกรงใจ เมื่อตรงหน้าของเขาเป็นถึงองค์หญิงกุย พระราชธิดาเพียงองค์เดียวของอดีตจักรพรรดิฮาคุโตคุผู้เกรียงไกร
"ไม่เลยขอรับองค์หญิง ทางนี้ต่างหากที่มารบกวน"
"วันนี้ถือซะว่าเป็นวันดีของครอบครัว อย่าได้ถือยศให้มากนักเลยค่ะ เชิญพักผ่อนกันตามสบาย ข้าคงต้องขอตัวก่อน" ดวงหน้าสวยยิ้มแจ่มใสก่อนจะเดินออกมา วันนี้มีเรื่องที่ต้องทำอีกมากนักแม้ว่าสถานที่จะเตรียมเสร็จตั้งแต่เมื่อเช้านี้แล้วก็ตาม แต่ก่อนพิธีสาบานจะเริ่มถ้าไม่ไปเข้าพิธีสละขนปีกของเจ้าบ่าวเห็นทีจะไม่ได้
"ดีจริงๆที่ปีนี้วันมหาจันทราตรงกับวันสีมอร์กาไนต์"
หญิงสาวพึมพำอย่างอารมณ์ดี ทันทีที่หมุนลูกบิดเปิดเข้ามาในห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าวก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างลอยเฉียดหัวออกไปด้วยความเร็ว ก่อนรอบห้องจะถูกเปลี่ยนเป็นมิติรับแรงเสียหายระดับ3
ดวงตาสีนิลวาวหันไปมองคนร่ายเวทมนต์ที่นั่งตัวสั่นอยู่มุมห้องก่อนจะหันไปมองพี่ชายแท้ๆทั้งสองของเธออยู่ในชุดออกรบเต็มกำลังศึกสยายปีกเพลิง มือหนึ่งถือดาบคู่ใจเอาไว้ในมืออีกมือหนึ่งถือมีดโกดหนวดสีชมพูพาสเทล
"คงจะต้องใช้ไม้แข็งจริงๆล่ะ แต่ไม่ต้องห่วง เวทรักษาของพี่ฮาคุยูบนเพลลูมนี้ไม่มีใครเทียบได้อีกแล้ว รับรองว่าเจ็บแปปเดียว" ฮาคุเรนเหวี่ยงดาบยักษ์ด้วยมือเดียวไปมาอย่าคล่องแคล่ว ในขณะที่โคเอนตอนนี้สยายปีกออกมาตั้งรับการโจมตีของทั้งสอง
"เดี๋ยวนี้เจ้าหัดดื้อกับพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ อยู่นิ่งๆดีๆสิ"
ฮาคุยูยิ้มก่อนพูดเรียบๆพลางทำสายตาแกมดุเล็กน้อย ในมือกำมีดโกนหนวดเอาไว้แน่น
"เล่นเหวี่ยงดาบเข้ามาแบบนั้นอยู่นิ่งๆดีๆได้ก็แปลกแล้ว!"
คนที่กำลังจนมุมประกาศเสียงกร้าวก่อนจะชักดาบขึ้นมาประจันหน้ากับที่ชายทั้งสองมองเชือดเฉือนดูเชิงกันไปมาราวกับมีไฟฟ้ากำลังปะทุอยู่ในบรรยากาศอันแสนตรึงเครียดที่...มันลงเอยอย่างนี้ได้ยังไงเนี่ย!!!
"นี่พวกท่านมาช่วยเจ้าบ่าวแต่งตัวกันจริงๆใช่มั้ยเนี่ย!"
…
ย้อนกลับไปเมื่อ1ชั่วโมงก่อน
"เติบโตมาได้อย่างสง่างามจริงๆ สมแล้วที่ข้าเลี้ยงดูมาแต่ยังเล็ก"
จักรพรรดิแห่งวังราคุโชพูดอย่างภาคภูมิใจระหว่างที่จัดปกเสื้อให้กับน้องชายสุดรัก รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นพ่อคนที่ยืนส่งลูกชายเข้าพิธีวิวาห์ยังไงยังงั้น ดวงตาสีนิลกาฬมองไหล่กว้างที่สูงไล่เลี่ยกันก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ทั้งที่เมื่อก่อนตอนออกรบด้วยกันยังเป็นแค่เด็กน้อยร้องไห้ขี้มูกโป่งไม่ประสีประสาอยู่เลยแท้ๆ แม้จะผ่านเรื่องราวน่าเศร้ามามากมายแต่ในวันนี้ในที่สุดก็กลับมายืนหยัดได้ซักที
"เอาล่ะ..มาเริ่มพิธีกันเลยฮาคุเรน โคเมย์ มายืนกันตรงนี้เร็วเข้า"
"เดี๋ยวววว ท่านพี่ลืมอะไรไปรึเปล่า!" ฮาคุเรนเดินเอามือไขว้หลังยิ้มแฉ่งหน้าบานเข้ามา สร้างความมึนงงให้กับคนที่เหลือในห้อง ก่อนจะชูมีดโกนหนวดที่ซ่อนไว้ด้านหลังขึ้นมา ราวกับเขาเฝ้ารอโอกาสนี้มานานแล้ว
"วันพิเศษ ก็ทำอะไรที่มันพิเศษหน่อยจริงมั้ย?"
ฮาคุเรนยิ้มแฉ่งก่อนจะเดินขยับเข้ามาใกล้
ฮาคุยูที่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้มองใบหน้าของน้องชายสุดรัก ในขณะที่โคเมย์ขยับถอยห่างไปอยู่มุมห้องเช็ดเหงื่อเม็ดเป้งที่ไหลท่วมใบหน้า
"ซวยแล้วไง..."
โคเมย์อุทานกับตนเองเบาๆ
"จะว่าไปเอาตรงคางเจ้าออกหน่อยก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย"
ฮาคุยูเอามือไขว้หลัง ก่อนมือที่ซ่อนไว้จะมีมีดโกนปรากฏขึ้นมาอย่างเงียบๆ ดวงตาของเขาจินตนาการภาพที่ตัวเองได้โกนเจ้าเคราแพะหรอมแหรมตรงคางน้องชายสุดรักออก จนเหงื่อชโลมชุ่มมือ
"ไม่ล่ะ ข้าว่ามันเหมาะกับข้าดีแล้ว"
โคเอนยังยืนยันคำเดิมเหมือนกับเมื่อหลายปีที่แล้วที่พี่ๆพูดถึงเรื่องแฟชั่นเคราของเขา ก่อนจะเดินไปหาลูกบิดประตูกะว่าจะไปแอบดูเจ้าสาวก่อนเข้าพิธีซักหน่อย แต่ยังไม่ทันจะวางมือบนลูกบิดประตูฮาคุเรนที่ยืนห่างออกไปไกลอยู่ๆก็วิ่งมาขวางกั้นระหว่างเขาและประตูบานใหญ่
"ไปเจอเจ้าสาวก่อนเข้างานพิธีมันเป็นลางไม่ดีนะรู้มั้ย"
"ข้าไม่ได้ไปเจอ จะไปแอบดูเฉยๆ"
โคเอนขมวดคิ้วแน่นมองพี่ชายที่ยิ้มอย่างมีเลศนัยน์อย่างรู้สึกตงิดๆในใจ
"ไม่เอาน่า เจ้ายังจัดการตัวเองไม่เสร็จเลยนะ"ทันทีที่พูดจบ ฮาคุเรนก็พุ่งเข้าหาเป้าหมายหวังจะคว้าคอเสื้อน้องชายสุดรักสุดหวงเอาไว้ให้ได้เช่นเดียวกับฮาคุยูที่พุ่งเข้าชาร์ตแขนทั้งสองข้างนั่นเอาไว้
โคเอนกางปีกเพลิงสลัดทั้งสองคนออกมาด้วยแรงที่มากกว่า ถอยมาหยุดยืนที่มุมห้องก่อนที่ชุดแต่งงานสีขาวจะเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดาในชั่วพริบตาเดียวเพียงแค่ดีดปลายนิ้ว ขยับตัวหลบพี่ชายทั้งสองที่ถือมีดโกนหนวดกระโจนเข้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่งราวกับกำลังไล่ตบแมลงสาบ
"หยุดเดี๋ยวนี้โคเอน!"
"มาให้ข้าโกนเคราเชยๆนั่นออกเดี๋ยวเน้!!!"
"เชยตรงไหน! มันออกจะอินเทรน!"
โคเอนตระโกนกลับไปอย่างไม่ลดละ
"เทรนยุคไหนของเจ้าห๊าาา ยุคพ่อเจ้านั่งเอาดินสอหมุนเทปตลับหรอ!? ยุคนี้เขาใช้ไอตูนโหลดเพลงลงโทรตับกันหมดแล้ว!" ฮาคุเรนโวย ก่อนหันไปหาคนที่นั่งเงียบๆทำเป็นชมนกชมไม้อยู่ริมหน้าต่าง "โคเมย์บอกพี่เจ้าไปซิ!! พูดความจริงจากใจของเจ้าให้หมอนั่นมันตาสว่าง!"
"มะ..ไม่ ข้าใช้แอนดร๋อย"
"แอนดร๋อยมันก็โหลดแอปฟังเพลงฟรีได้มั้ย!?"
"ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น พอกันทั้งคู่นั่นแหละ!" ฮาคุยูตวาดเสียงกร้าว ดึงสติน้องชายคนรองที่กำลังโวยวายหัวเสียออกนอกเรื่อง ก่อนจะหลบการโจมตีของข้าวของที่ลอยบินว่อนไปทั่วห้อง ตัวของฮาคุเรนที่หลบไม่พ้นนั้นเมื่อจวนตัวแจกันที่ลอยเข้ามาใกล้หน้านั้นทำให้มือใหญ่เผลอชักดาบขึ้นมาฟาดแจกันที่ลอยใส่หน้าโดยอัติโนมัติ
"โคเมย์!"
ฮาคุยูตะโกนสุดเสียงหันไปหาคนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง
แรงฟาดจากดาบยักษ์ก่อเกิดเป็นแรงลมที่สามารถผ่าคฤหาสน์ออกเป็นสองส่วนได้อย่างง่ายดาย หากโคเมย์ไม่เปลี่ยนห้องนี้เป็นมิติรับแรงเสียหายได้ทันเวลาฉิวเฉียด ก่อนที่สามพี่น้องจะเริ่มเปิดฉากฟาดฟันกันจนข่ายเวทย์ระดับ3ของโคเมย์สั่นสะเทือนจนแทบจะรับไม่ไหว
ด้วยพลังดาบบาลมุง*ของฮาคุยูที่สามารถทลายภูเขาให้เป็นกองหินได้เพียงฟาดฟันไม่กี่ที ปะทะกับดาบแร็คน่าร็อกที่มีพลังอำนาจสูสีกับเอ็กซ์คาลิเบอร์ของราชาฟากฟ้าตะวันตกซินแบด ต่างคนต่างงัดอาวุธในตำนานมาฟัดกันอย่างไม่ไว้หน้าใคร อีกคนโจมตีอย่างหนักหน่วง อีกคนสวนกลับอย่างแม่นยำ
"อย่ามายุ่งกับข้าได้มั้ย!"
"จะไม่ยุ่งได้ไง ก็เห็นๆอยู่ว่ารสนิยมแฟชั่นของเจ้ามันเห่ย"ฮาคุเรนเโวยก่อนจะเหวี่ยงดาบในมือออกไปไม่ยั้งสร้างวงวนลมอันบ้าคลั่ง "แล้วเจ้าจะใช้บาเรียกันที่เคราอย่างเดียวเนี่ยนะ!" คนที่เหวี่ยงดาบไปมามองก้อนแสงที่ส่องสว่างอยู่ใต้คางของคนที่กระโดดหลบไปมา อยากจะปามีดโกนใส่หน้ามันซะให้รู้แล้วรู้รอด
'เจ้าน้องคนนี้นี่มัน...'
แม้การโจมตีของฮาคุเรนจะหนักหน่วงหากแต่ไม่ได้มีความแม่นยำมากนัก สำหรับโคเอนแล้วเขาสามารถหลบได้สบายๆถ้าไม่มีพี่ชายคนโตอย่างฮาคุยูคอยใช้การโจมตีเวททื่อๆตะล่อมให้เขาเข้าไปอยู่ในรัศมีการโจมตีของดาบ ปีกสีเพลิงของโคเอนค่อยๆเปลี่ยนเป็นที่ฟ้าอ่อนโบกปัดการโจมตีของฮาคุยูออกไปอย่างพริ้วไหว
ฮาคุเรนถึงกับเหงื่อตกเล็กน้อยกับการเคลื่อไหวที่เร็วขึ้นของโคเอน แม้ตัวเองอยากจะทำบ้างแต่ไม่สามารถที่จะควบคุมไฟที่ปีกให้นิ่งได้ ยิ่งในที่แคบๆแบบนี้มีหวังพุ่งชนใส่กำแพงเจ็บตัวเองเสียเปล่าๆ ดวงตาที่ฉายแววให้เห็นถึงความลำบากใจมองไปทางพี่ชายคนโตอย่างไม่ทันระวังตัว
สายลมอันเฉียบคมก็พุ่งเข้ามาที่แก้มของเขาจนเลือดซิบ ตามด้วยคมดาบสีดำสนิท…
'ดะ เดี๋ยวนะเว้ยยย นี่กะฆ่ากันจริงๆหรอ!!'
"คาเซียโน่ ชีคเคียร์ยา เวียเรวา เมย์ซิเอย์"
*ข้าขอบัญชาตรวนแห่งลม
'เคล้ง!'
เสียงของโลหะกระทบกับพื้นหินอ่อนเสียงดังสนั่น ฮาคุเรนจ้องมองน้องชายที่ตัวสูงกว่าด้วยดวงตาเบิกกว้างอย่างงุนงงเมื่ออยู่ๆโคเอนก็ทิ้งดาบลงไปดื้อๆ แถมยังหยุดนิ่งค้างเป็นหุ่นขี้ผึ้งไม่ขยับแม้แต่ปลายนิ้ว
"ขอบใจมากเลยนะฮาคุเอย์" องค์จักรพรรดิแห่งวังราคุโชหันไปทางน้องสาวที่ยืนทำสีหน้าโกรธจัดอยู่หน้าประตูด้วยแก้มที่แอบแดงเรื่อๆ ทั้งอายทั้งรู้สึกผิด
"ในระหว่างที่ฮาคุริวช่วยกับคนอื่นเตรียมงานอยู่ข้างล่างพวกท่านกลับมาเล่นตีกันเป็นเด็กๆแบบนี้ไม่ละลายบ้างหรอคะ?" หญิงสาวเอวบางกวาดสายตามองผู้ใหญ่ตัวโตที่ทำสีหน้าจ๋อยไปอย่างคาดคั้นเอาเรื่อง "รีบๆทำพิธีสละขนปีกให้เสร็จได้แล้วนะคะ นี่มันใกล้จะได้ฤกษ์แล้ว"
"ก่อนอื่นยังไงต้องสลายบาเรียที่คางเจ้าโคเอนออกก่อน " ฮาคุเรนยังคงไม่ลดละจุดประสงค์ มองเจ้าบาเรียที่อัดพลังเวทย์เอาไว้อย่างแน่นหนาอย่างหมดหนทาง
"การจะควบคุมบาเรียที่แน่นหนาขนาดนี้ได้จำเป็นต้องใช้สมาธิมาก เราต้องทำให้เขาเสียสมาธิแค่ซักวูบหนึ่งก็พอ เสร็จแล้วใช้ดาบมุงบาลของเจ้าฝ่าบาเรียเคราแพะไปในทีเดียว" องค์จักรพรรดิแห่งราคุโชมองเหตุการณ์ที่แทบจะเรียกได้ว่าสิ้นหวัง พ่ายแพ้หมดรูป แม้โคเอนจะโดนตรวนแห่งลมตรึงร่างเอาไว้อยู่ก็ตาม เพราะจุดแข็งที่สุดของโคเอนนั่นก็คือ 'สมาธิ'
"หึ ไม่มีทางซะล่ะ ถ้าเป็นเรื่องความอดทนข้าไม่แพ้เด็ดขาด!"
ใบหน้าคมยิ้มเยาะเหล่าพี่ชายทั้งสองอย่างมีชัย
"โคเมย์ถึงตอนที่เจ้าต้องออกมาพูดอะไรบ้างแล้วล่ะ" ฮาคุยูพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หันไปมองความหวังเพียงหนึ่งเดียงที่นั่งหลบอยู่ตรงมุมห้อง ดวงตาสีนิลกาฬลุกโชติช่วงราวกับจะพูดออกมาว่า 'เขาไม่มีวันยอมแพ้เด็ดขาด'
"คือ...ไม่ ข้าทำไม่ได้…"
"นี่คำสั่งของจักรพรรดิ! โคเมย์เจ้าต้องทำมันเดี๋ยวนี้!"
โคเมย์เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่อยากจะร้องไห้เต็มทน
'แล้วจะให้ข้าทำอะไรเล่า ปัดโถ่!!!'
ดวงตาละห้อยหันไปมองท่านหญิงฮาคุเอย์ที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ด้านหลังแอบวิงวอนขอความช่วยเหลือ แต่ดูเหมือนว่าหากถึงเวลาพิธีเธอก็พร้อมที่จะลากคอพวกเราทุกคนออกไปจากที่นี่ทันที โดยที่ไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นแม้แต่น้อย
"เฮ้อ..."
โคเมย์มองใบหน้าพี่ชายแท้ๆ ก่อนจะสูดหายใจให้ลึกสุดขั้วปอด
"ท่านพี่...จำซีรี่ย์เรื่องเกมออฟโ*รนซีซั่น7ที่เราดูด้วยกันได้มั้ย?"
"จำได้สิ"
โคเอนขมวดคิ้วมุ่นไม่รู้น้องชายจะมาไม้ไหนกันแน่
"ข้าแอบไปอ่านสปอยของซีซั่น8มาน่ะ"
"ซีซั่น8!!! แต่มันยังเป็นภาษาเอลฟ์อยู่ไม่ใช่หรอ!" นัยน์ตาสีทับทิมเบิกกว้างเมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่วูบไหวอย่างเย็นชาคู่ตรงหน้า เขารู้ทันทีเลยว่าโคเมย์จะทำอะไรต่อจากนี้ "ไม่นะโคเมย์ อย่าพูดออกมาเด็ดขาดเลยนะ! อย่าทำกับข้าแบบนี้!!!"
"ความจริงแล้วซีซั่น8 จอน ตโนว์น่ะ..."
"อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
…………………………..
โคฮาสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาน้องสาวที่หันหน้าออกไปทางประตูพร้อมๆกับอาลีบาบา ดูแล้วทุกคนคงจะได้ยินเสียงเมื่อครู่นี้เป็นแน่
"เสียงอะไรน่ะ?"
ดวงหน้าสวยของภูติสีทองนิ่วหน้าอย่างรู้สึกเป็นกังวล
"ทางนั้นก็น่าจะเริ่มอวยพรกันได้แล้วนี่ เอะอะเสียงดังอะไรกัน?" เด็กชายตัวเล็กดีดนิ้วก่อนเสียงที่เข้ามาจากภายนอกทั้งหมดทั้งมวลจะหายไป
"เอาล่ะมาเริ่มกันเถอะ"
+++++++++++++++++++++++
*ดาบบาลมุง เป็นดาบชั้นยอดในตำนานเทพเจ้ายุโรปเหนือ เดิมทีถูกตีขึ้นเพื่อถวายให้แก่เทพโอดิน แต่แกอินดี้ เอาไปเสียบไว้ที่ต้นโอ๊ค แล้วประกาศว่าใครดึงออกไปได้จะชนะสงครามการต่อสู้ทั้งปวง (เฮ้ยยย สกิลดาบโคตรโกงอ่ะ!)
*วัน7วันในเพลลูมถูกแทนด้วยอัญมณีและหิน วันสีมอร์กาไนต์ = วันอังคาร เพราะมอร์กาไนต์เป็นแร่สีชมพูอ่อน แถมยังเป็นตัวแทนของความรักที่ไม่มีเงื่อนไขด้วยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น