วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2564

เนื้อเพลง + คำอ่านไทย Kono Uta Ni Chikaou






夢で会った

ยูเมะเดอาอัตตา

Yume de atta 

คนที่เคยเจอในภาพฝัน


会えぬ人よ

อาเอนุฮิโตะโยะ

aenu hito yo

ไม่อาจเจอกันได้อีกต่อไป


灯りともし

อาการิะโทโมะชิ

akari to moshi 

โคมที่ลุกโชนสุกสว่าง


あなたを偲ぶ

อานาตาโอะชิโนบุ

anata wo shinobu

พาใจให้หวนรำลึกถึงเจ้า






闘いの刃に倒れて

ทาทาไกโนะ ไยบะนิทาโอะเรเตะ

tatakai no yaiba ni taorete

ล้มลงเพลี่ยงพล้ำต่อคมดาบ


時の中忘れ去られ

โทคิโนนากะ วาซุเรซาราเร

toki no naka wasuresara re

หลงลืมซึ่งกาลเวลาผันผ่าน


誰のため横笛が響く

ดาเรโนทาเมะ โยโกบุเอะกะฮิคุ

dare no tame yokobue ga hibiku

ข้าเป่าทำนองขลุ่ยนี้ไปเพื่อผู้ใดกัน


何を想って

นานิโอะ โอโมโอตเต

nani wo omotte

กำลังคิดคะนึงถึงสิ่งใด





永遠に続く

เออิเองนิซุซุคุ

eienni tsudzuku 

หลงวนเวียนไปชั่วนิรันดร์


魂は孤独

ทามาชิวะโคโดะคุ

tamashii wa kodoku

ดวงวิญญาณอันเปล่าเปลี่ยว


一瞬の光のように過ぎて

อิอิตชุนโนฮิคาริ โนโยวนิซึกิเต

isshun no hikari no you ni sugite

ชีวิตไหลผ่านไปดั่งแสงเพียงชั่ววูบ


琴線の糸に願いをこめよう

คิทเซนโนอิโตะนิ เนไกโอะโคะเมะโยว

kinsen no ito ni negai wo komeyou

ร้อยเรียงความปรารถนาไว้บนสายฉิน


この曲に誓いたい

โคะโนะเคียวคุนิจิไกไตอิ

kono kyoku ni chikaitai

ข้าขอมอบสาบานต่อบทเพลงบทนี้






探す者と

ซากาซุโมโนะโตะ

sagasu mono to 

ผู้ที่ไล่ตามหา

さまよう者

ซามาโยวโมโนะ

samayou mono

และผู้ที่ยังหลงวน

白い雲に

ชิโร่ยคุโมะนิ

shiroi kumo ni 

หวนสู่หมู่เมฆพิสุทธิ์

杯を掲げよう

ไฮโอะอะเกโยโว

hai wo ageyou

แล้วมาร่วมชูจอกร่ำสุรากันเถอะ





もう一度命授かれど

โมอิจิโดะ อิโนจิซาซูเกเรโด

mouichido inochi sazukaredo

แม้จะหวนกลับคืนมาสู่ภพอีกครา


我を知る者など居ない

วาเรโอชิรุโมโนะ นาโดอิไน

ware wo shiru mono nado inai

แต่ก็มิมีผู้ใดที่จดจำได้


懐かしい城に響く音

นัตซึคาชิอี ชิโระนิฮิบิคุโอโตะ

natsukashii shiro ni hibiku oto

เสียงที่ดังจากจวนอันแสนหวนหา


何を想って

นานิโอะ โอโมโอตเต

nani wo omotte

ผู้บรรเลงนั้นกำลังคะนึงถึงสิ่งใดกัน



永遠に続く

เออิเองนิซุซุคุ

eienni tsudzuku 

หลงวนเวียนไปชั่วนิรันดร์

魂は孤独


ทามาชิวะโคโดะคุ

tamashii wa kodoku

ดวงวิญญาณอันเปล่าเปลี่ยว


一瞬の光のように過ぎて

อิอิตชุนโนฮิคาริ โนโยวนิซึกิเต

isshun no hikari no you ni sugite

ชีวิตไหลผ่านไปดั่งแสงเพียงชั่ววูบ


琴線の糸に願いをこめよう

คิทเซนโนอิโตะนิ เนไกโอะโคะเมะโยว

kinsen no ito ni negai wo komeyou

ร้อยเรียงความปรารถนาไว้บนสายฉิน


この曲に誓いたい

โคะโนะเคียวคุนิจิไกไตอิ

kono kyoku ni chikaitai

ข้าขอมอบสาบานต่อบทเพลงบทนี้





さまよう者

ซามาโยวโมโน

samayou mono

และผู้ที่ยังหลงวน


探す者と

ซากาซุโมโนะโตะ

sagasu mono to 

ผู้ที่ไล่ตามหา


杯を

ไฮโอะ

hai wo 

ยกจอกเมไร


白い雲に

ชิโร่ยคุโมะนิ

shiroi kumo ni 

หวนสู่หมู่เมฆพิสุทธิ์





胸に焼きついた

มุเนะนิยาคิซืออิตา

mune ni yaki tsuita 

ความรู้สึกที่แผดเผาดวงใจ


調べよ再び

ชิราเบโยฟุทาทาบิ

shirabe yo futatabi

พาข้าออกเสาะหาเจ้าอีกครา


一瞬の光のように過ぎて

อิอิตชุนโนฮิคาริ โนโยวนิซึกิเต

isshun no hikari no you ni sugite

ชีวิตไหลผ่านไปดั่งแสงเพียงชั่ววูบ


青剣でさえも

เซเคงเดะซาเอะโม

sei kende sae mo

แม้แต่กระบี่


断ち切れない縁

ทาจิคิเรไนอิเอน

tachikirenai en

ก็มิอาจตัดโชคชะตาของเราสอง


あの曲に誓いたい

อะโนะเคียวคุนิจิไกไตอิ

ano kyoku ni chikaitai

ข้าขอมอบสาบานต่อบทเพลงบทนี้





永遠に続く

เออิเองนิซุซุคุ

eienni tsudzuku 

หลงวนเวียนไปชั่วนิรันดร์


魂は孤独

ทามาชิวะโคโดะคุ

tamashii wa kodoku

ดวงวิญญาณอันเปล่าเปลี่ยว


一瞬の光のように過ぎて

อิอิตชุนโนฮิคาริ โนโยวนิซึกิเต

isshun no hikari no you ni sugite

ชีวิตไหลผ่านไปดั่งแสงเพียงชั่ววูบ


琴線の糸に願いをこめよう

คิทเซนโนอิโตะนิ เนไกโอะโคะเมะโยว

kinsen no ito ni negai wo komeyou

ร้อยเรียงความปรารถนาไว้บนสายฉิน


あの曲が響いてる

อะโนะเคียวคุกะฮิบิอิเตะรู

ano kyoku ga hibii teru

ให้บทเพลงได้ดังกังวานเรื่อยไป

 

วันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2564

เนื้อเพลง Siuil a Run เวอร์ชั่นKOKIA

 


I wish I was on yonder hill

ฉันหวังว่าตัวฉันยืนอยู่บนเนินเขาฟากนู้น

Tis there I’d sit and cry my fill

เพื่อนั่งและร้องไห้ออกมา

And till every tear would turn a mill

จนกว่าน้ำตาทุกหยดจะหมุนกังหันให้พัดไป

Is go dte tu mo mhuirnin slan

และขอให้คุณเดินทางไปรบอย่างปลอดภัย


Siuil, siuil, siuil a run

เดิน เดิน ออกก้าวเดินไป

Siuil go sochairagus siuil go ciuin

เดินไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย

Siuil go doras agus ealaigh lion

หวังให้คุณเดินไปยังประตู และหนีไปกับฉัน

Is go dte tu mo mhuirnin slan

ขอให้คุณเดินทางไปรบอย่างปลอดภัย



I’ll sell my rock, I’ll sell my reel,

ฉันจะขายแกนพันฝ้าย ขายกระสวยด้าย

I’ll sell my only spinning wheel

ฉันจะขายเครื่องปั่นด้ายเพียงเครื่องเดียวของฉัน

To buy my love a sword of steel

เพื่อซื้อดาบเหล็กให้กับที่รักของฉัน

Is go dte tu mo mhuirnin slan

และขอให้เขาเดินทางไปรบอย่างปลอดภัย



Siuil, siuil, siuil a run

เดิน เดิน ออกก้าวเดินไป

Siuil go sochairagus siuil go ciuin

เดินไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย

Siuil go doras agus ealaigh lion

หวังให้คุณเดินไปยังประตู และหนีไปกับฉัน

Is go dte tu mo mhuirnin slan

ขอให้คุณเดินทางไปรบอย่างปลอดภัย



Siuil go doras agus ealaigh lion

หวังให้คุณเดินไปยังประตู และหนีไปกับฉัน

Siuil, siuil, siuil a run

เดิน เดิน ออกก้าวเดินไป

Siuil go doras agus ealaigh lion

หวังให้คุณเดินไปยังประตู และหนีไปกับฉัน



I wish I was on yonder hill

ฉันหวังว่าจะได้อยู่บนเนินเขาฟากนู้น

Tis there I’d sit and cry my fill

เพื่อนั่งและร้องไห้ออกมา

And till every tear would turn a mill

ให้น้ำตาแปรเปลี่ยนเป็นเครื่องโม่แป้ง

Is go dte tu mo mhuirnin slan

และขอให้คุณเดินทางไปรบอย่างปลอดภัย



Siuil, siuil, siuil a run

เดิน เดิน ออกก้าวเดินไป

Siuil go sochairagus siuil go ciuin

เดินไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย

Siuil go doras agus ealaigh lion

หวังให้คุณเดินไปยังประตู และหนีไปกับฉัน

Is go dte tu mo mhuirnin slan

ขอให้คุณเดินทางไปรบอย่างปลอดภัย



Siuil, siuil, siuil a run

เดิน เดิน ออกก้าวเดินไป

Siuil go sochairagus siuil go ciuin

เดินไปอย่างมั่นคงและปลอดภัย

Siuil go doras agus ealaigh lion

หวังให้คุณเดินไปยังประตู และหนีไปกับฉัน

Is go dte tu mo mhuirnin slan

ขอให้คุณเดินทางไปรบอย่างปลอดภัย


วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564

เนื้อเพลง The Willow Maid

 




A young man walked through the forest

ชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินย่ำผ่านผืนป่า


With his quiver and hunting bow

บนตัวเขามีซองใส่ศรและธนูล่าสัตว์


He heard a young girl singing

เขาได้ยินเสียงหญิงสาวขับขานบทเพลง


And followed the sound below

และได้ไล่ตามเสียงร้องนั้นไป


There he found the maiden

ในตอนนั้นเองที่เขาได้เจอกับโฉมงามสะคราญ


Who lives in the willow

ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในต้นวิลโลว์


He called to her as she listened

เขาส่งเรียกเรียก และนางได้สดับฟัง


From a ring of toadstools red

ผ่านวงแหวนของเหล่าเห็ดสีแดง


"Come with me, my maiden Come from the willow bed"

มากับข้าเถอะสาวน้อย ออกมาจากเตียงต้นวิลโลว์


She looked at him serenely

นางมองเขาอย่างเงียบงัน


And only shook her head

และเอาแต่ส่ายหัวพัลวัน





See me now, 

ท่านดูข้าสิ


a ray of light in the moondance

ในเส้นแสงสง่าของจันทรา


See me now,

ท่านดูข้าสิ


 I cannot leave this place

ข้าไม่อาจไปจากที่นี่ได้


Hear me now,

ท่านฟังข้าสิ


 a strain of song in the forest

บทเพลงลึกลับที่ดังมาจากป่าใหญ่


Don't ask me, to follow where you lead

ได้โปรดอย่าเอ่ยถามให้ข้าตามท่านออกไป






A young man walked through the forest

ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาในป่าอีกครั้ง


With a flower and coat of green

ใส่เสื้อคลุมสีเขียว ในมือถือดอกไม้


His love had hair like fire

เขาชอบเส้นผมสีแดงดั่งเพลิงของนาง


Her eyes an emerald sheen

และดวงตาสีมรกตเป็นประกายคู่นั้น


She wrapped herself in beauty

เรือนร่างของนางอบอวลด้วยความงาม


So young and so serene

ทั้งยังสาวและสงบเสงี่ยม


He stood there under the willow

เขาหยุดยืนอยู่ใต้ต้นวิลโลว์


And he gave her the yellow bloom

และมอบดอกไม้สีเหลืองให้กับนาง


"Girl, my heart you've captured

ยอดรัก เจ้าได้ขโมยหัวใจข้าไป


Oh, I would be your groom"

ได้โปรดให้ข้าได้เป็นเจ้าบ่าวของเจ้าด้วยเถอะ


She said she'd wed him never

นางปฏิเสธและตอบกลับว่าจะไม่แต่งงานกับเขา


Not near, nor far, nor soon

ไม่ว่าจะตอนนี้ หรือตอนไหนก็ตาม





See me now, 

ท่านดูข้าสิ


a ray of light in the moondance

ในเส้นแสงสง่าของจันทรา


See me now,

ท่านดูข้าสิ


 I cannot leave this place

ข้าไม่อาจไปจากที่นี่ได้


Hear me now,

ท่านฟังข้าสิ


 a strain of song in the forest

บทเพลงลึกลับที่ดังมาจากป่าใหญ่


Don't ask me, to follow where you lead

ได้โปรดอย่าเอ่ยถามให้ข้าตามท่านออกไป






A young man walked through the forest

ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาในป่าอีกครั้ง


With an axe sharp as a knife

ในมือถือขวานที่คมกริบดุจใบมีด



"I'll take the green-eyed fairy

ข้าจะพาเจ้าไปแม่นางฟ้าตามรกต


And she shall be my wife

และให้เจ้ามาเป็นภรรยาของข้า


With her I'll raise my children

ข้าจะมีลูกกับนาง


With her I'll live my life"

ใช้ชีวิตครองคู่กันเช่นสามีภรรยา



The maiden wept when she heard him

เมื่อได้ยินดังนั้นหญิงสาวก็ร้องไห้ออกมา


When he said he'd set her free

ในตอนที่เขาบอกว่าจะปลดปล่อยเธอให้เป็นอิสระ


He took his axe and used it

ชายหนุ่มจับขวานมั่นและฟันลงไป


To bring down her ancient tree

โค่นต้นไม้โบราณจนล้มลง


"Now your willow's fallen

บัดนี้ต้นวิลโลว์ของเจ้าโค่นลง


Now you belong to me"

ในตอนนี้เจ้าเป็นของข้าแล้ว







See me now, 

ท่านดูข้าสิ


a ray of light in the moondance

ในเส้นแสงสง่าของจันทรา


See me now,

ท่านดูข้าสิ


 I cannot leave this place

ข้าไม่อาจไปจากที่นี่ได้


Hear me now,

ท่านฟังข้าสิ


 a strain of song in the forest

บทเพลงลึกลับที่ดังมาจากป่าใหญ่


Don't ask me, to follow where you lead

ได้โปรดอย่าเอ่ยถามให้ข้าตามท่านออกไป





She followed him out the forest

นางติดตามชายหนุ่มออกไปนอกผืนป่า


And collapsed upon the earth

แต่ทันใดนั้นร่างกลับหลอมรวมกับโลกา


Her feet had walked but a distance

เท้าของนางก้าวเดินไปไกล


From the green land of her birth

ห่างจากดินแดนสีเขียวที่ถือกำเนิดมา


She faded into a flower

ร่างของนางจากหายกลายเป็นดอกไม้


That would bloom for one bright eve

ที่จะเบ่งบานในคืนจันทร์สว่าง


He could not take from the forest 

ชายหนุ่มไม่สามารถนำสิ่งใดออกไปจากป่าได้


What was never meant to leave

โดยเฉพาะกับสิ่งที่ไม่มีเจตจำนงที่จะจากไป